วันอังคารที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2567

ขับรถแล้วถูกชนแต่จำคู่กรณีไม่ได้

          
อุบัติเหตุรถชนกับการประกันภัยเป็นของคู่กัน เพราะการประกันภัยผู้ที่ทำประกันไว้ก็ย่อมมุ่งหวังที่จะให้บริษัทรับประกันภัยจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้เมื่อยามที่เกิดอุบัติเหตุขึ้น แต่บางครั้งการจะได้รับชดใช้ค่าสินไหมทดแทนหรือไม่อาจไม่ได้ง่าย ๆ ตรงไปตรงมา แต่มีข้อที่ต้องระวังและคำนึงถึงโดยเฉพาะเงื่อนไขตามกรมธรรม์ ซึ่งในตอนนี้คงมาคุยกันกับปัญหากรณีที่เกิดอุบัติเหตุแล้วแต่เราจำรถยนต์คู่กรณีไม่ได้จะมีผลอย่างไรกับสิทธิได้รับการชดใช้จากบริษัทประกันภัย
         นายเก้งขับรถยนต์ไปเที่ยวพัทยากับครอบครัว ระหว่างที่รถกำลังแล่นผ่านสี่แยกแห่งหนึ่งใกล้กับพัทยา รถยนต์อีกคันได้วิ่งฝ่าไฟสัญญาณจราจรสีแดงมาจากอีกทางหนึ่ง รถยนต์คันดังกล่าวเฉี่ยวชนกับรถยนต์ของนายเก้งที่บังเอิญเห็นว่ามีรถออกมาจากอีกทาง แม้นายเก้งจะพยายามหักหัวรถหนีแล้วแต่ก็ไม่ทัน รถยนต์ของนายเก้งเสียหลักไปชนกับเสาไฟฟ้าข้างทาง เมื่อนายเก้งตั้งสติได้ก็รีบหันไปดูบุตรของตนที่นั่งอยู่ที่เบาะหลัง โชคดีที่ไม่มีใครได้รับอันตรายร้ายแรง แต่เมื่อนายเก้งมองหารถยนต์ที่มาชนรถตน ปรากฏว่ารถคันดังกล่าวอาศัยจังหวะที่นายเก้งกำลังตกอกตกใจ ขับรถหนีไปแล้ว นายเก้งเห็นจากระยะทางไกลเพียงรู้ว่าเป็นรถยนต์สีดำยี่ห้อหนึ่ง แต่ระยะทางไกลเกินกว่าจะเห็นทะเบียนรถยนต์คันนั้นได้ 
          ก่อนเกิดเหตุ นายเก้งได้ทำประกันภัยรถยนต์ใน “แบบคุ้มครองเฉพาะภัย” ไว้กับบริษัทประกันภัยแห่งหนึ่ง แต่เมื่อเรียกร้องให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน บริษัทประกันภัยกลับไม่ยอมจ่ายให้โดยอ้างว่านายเก้งจำคู่กรณีไม่ได้จึงเข้าข้อยกเว้นที่บริษัทประกันภัยไม่ต้องรับผิด
         คนจำนวนไม่น้อยมักเข้าใจว่าเมื่อทำประกันภัยไว้แล้วและเกิดอุบัติเหตุขึ้น ตนเองย่อมจะต้องมีสิทธิได้รับการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัย เพราะการที่จ่ายค่าเบี้ยประกันภัยไปก็เพื่อหวังจะได้รับความคุ้มครองเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นดังเช่นกรณีของนายเก้งนี้ แต่เบี้ยประกันและขอบเขตความคุ้มครองนั้นมักมีความสัมพันธ์กัน หากความคุ้มครองมากเบี้ยประกันภัยย่อมสูงตามไป หากความคุ้มครองจำกัดลงเบี้ยประกันภัยก็อาจดูเหมือนถูกลง แต่ที่ถูกลงเป็นเพราะผู้เอาประกันภัยได้รับความคุ้มครองที่น้อยลงตามไปด้วย
          กรณีของนายเก้งนี้ หากสังเกตดูจะเห็นว่าเป็นการประกันภัย “แบบคุ้มครองเฉพาะภัย” จึงสื่อความหมายในตัวว่าไม่ได้คุ้มครองภัยทุกประเภท เช่น อุบัติเหตุที่จะคุ้มครองจะจำกัดเฉพาะกรณี “ชนกับยานพาหนะทางบก” เท่านั้น หากนายเก้งขับรถไปแล้วเกิดมีเครื่องบินแบบที่เป็น “โดรน” พุ่งมาชนก็อาจจะกลายเป็นภัยที่ไม่อยู่ในความคุ้มครองตามกรมธรรม์ไปแล้ว เพราะสิ่งที่มาชนไม่ใช่ “ยานพาหนะทางบก” 
         แต่ปัญหาของนายเก้งในกรณีนี้อยู่ที่เงื่อนไขตามกรมธรรม์ส่วนที่ระบุว่าบริษัทจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้ต่อเมื่อ “ผู้เอาประกันภัยสามารถแจ้งให้บริษัททราบถึงคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งได้...”สาเหตุสำคัญที่มีการกำหนดเงื่อนไขลักษณะนี้คงเป็นเพราะการที่บริษัทประกันภัยจะได้ไปไล่เบี้ยเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนที่จ่ายไปคืนจากคู่กรณีได้หากคู่กรณีนั้นเป็นฝ่ายผิดและก่อให้เกิดอุบัติเหตุนั้นขึ้น ถ้าหากไม่รู้ว่าคู่กรณีเป็นใครก็ทำให้ไม่สามารถไปไล่เบี้ยเอาได้โดยสภาพ 
          ในเรื่องของการแจ้งให้ทราบถึงคู่กรณีอีกฝ่ายได้นี้ คู่มือการตีความกรมธรรม์ตามที่กำหนดโดยเลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยซึ่งเป็นนายทะเบียนกำหนดไว้ว่าอาจเป็นการระบุตัวผู้ขับขี่รถยนต์คู่กรณีโดยตรงเลยก็ได้ เช่น เมื่อชนกันแล้วจอดรถลงมาพูดคุยและมีการขอดูใบอนุญาติขับขี่รถหรือบัตรประจำตัวประชาชนและถ่ายภาพไว้ หรือหากไม่รู้ตัวผู้ขับขี่ก็จะต้องสามารถระบุหมายเลขทะเบียนรถยนต์คู่กรณีให้บริษัทประกันภัยทราบได้ ซึ่งจะใช้ได้กับกรณีที่เมื่อเกิดเหตุแล้วไม่มีการมาพูดคุยกันแต่อาจขับหนีไปเลย
           บังเอิญโดยเป็นคราเคราะห์ของนายเก้งที่เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น นายเก้งตกใจกับเหตุที่เกิดขึ้นและด้วยความเป็นห่วงครอบครัวที่อยู่ในรถจึงไม่ทันได้รีบมองรถยนต์คู่กรณี จนรถยนต์คันดังกล่าวหนีไปไกลเกินกว่าจะเห็นเลขทะเบียนแล้ว แม้จะจำสีและยี่ห้อรถได้แต่ก็ไม่เพียงพอ เพราะรถยนต์ยี่ห้อนั้นที่มีสีเดียวกันอาจมีมากจนเกินกว่าระบุได้ว่าเป็นรถคันใดกันแน่ จึงทำให้เข้าข้อยกเว้นตามกรมธรรม์ที่บริษัทประกันภัยไม่ต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้
          ในการหวังความคุ้มครองจากกรมธรรม์ เราอาจต้องศึกษาดูเงื่อนไขตามกรมธรรม์ที่อุตส่าห์เสียเงินเสียทองจ่ายค่าเบี้ยประกันไปด้วยว่าให้ความคุ้มครองกรณีใดบ้าง และมีเงื่อนไขอย่างไรที่ต้องทำเพื่อให้ได้รับความคุ้มครองตามที่ต้องการอย่างเช่นกรณีการทำประกันภัยแบบคุ้มครองเฉพาะภัยนี้เมื่อเกิดเหตุต้องรีบจดจำคู่กรณีให้ได้ แม้ไม่รู้ชื่อ อย่างน้อยก็ต้องจำเลขทะเบียนรถยนต์คู่กรณีไว้ให้ดีแล้วเราจะได้รับความคุ้มครองสมกับที่หวังไว้

                                                                                                                 (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5238/2561)

วันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

🔴เทคนิคแจ้งเคลมประกันชั้น1​ ไม่มีคู่กรณี​

🔴ถึงแม้จะเป็นประกันชั้น​ 1​ ถ้าแจ้งเคลมแบบไม่มีคู่กรณี​ก็อาจจะต้องเสียค่า​เสียหายส่วนแรกนะจ๊ะ​ เริ่มต้น​ 1,000​ บาท ถึงแม้ในกรมธรรม์​ที่เราซื้อจะไม่ระบุ​ แต่ระเบียบ​ค.ป.ภ.​ ระบุใว้ชัดเจน
🎯ประกันชั้น 1 แต่ต้องเคลมโดยไม่มีคู่กรณี
     เราจะต้องทำยังไงบ้าง?

✅แจ้งนำรถเข้าซ่อม
โดยแจ้งศูนย์บริการที่จะนำรถเข้าซ่อม แจ้งรายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้น และเราต้องการนำรถเข้าซ่อม ทางศูนย์บริการจะให้เราแจ้งบริษัทประกันภัยเพื่อแจ้งเคลม และขอเลขเคลมมา

✅ติดต่อบริษัทประกันภัยรถยนต์
แจ้งบริษัทประกันภัยรถยนต์ที่เราทำประกันรถยนต์เอาไว้ แจ้งว่าเราต้องการขอเลขเคลมเพื่อนำรถยนต์เข้าซ่อม บริษัทประกันภัยจะรับแจ้ง ขอรายละเอียดของอุบัติเหตุเพื่อทำเรื่องต่อ การแจ้งเหตุแบบไม่มีคู่กรณี

✅แจ้งวัน เวลาเกิดเหตุ
แจ้งวัน และเวลาเกิดเหตุโดยแจ้งให้ใกล้เคียงวันที่เราแจ้งเคลมมากที่สุด เช่น หากเราแจ้งเคลมวันที่ 24 สิงหาคม ก็ให้แจ้งว่าเกิดเหตุวันที่ 23 สิงหาคม เป็นต้น หากเราแจ้งเหตุวัน-เวลาจริงทางบริษัทประกันภัยอาจจะอ้างว่าเหตุเกิดนานแล้ว และไม่รับแจ้งได้

✅แจ้งว่าชน หรือเฉี่ยวกับสิ่งไม่มีชีวิต
คือแจ้งว่าชน เฉี่ยวกับสิ่งไม่มีชีวิต เช่น กระถางต้นไม้ รั้ว กำแพง เสา เป็นต้น แต่ต้องดูให้สมจริงที่สุดด้วย เช่น แผลอยู่กันชนด้านหลัง บอกว่าชนกระถางก็ยังน่าเชื่อถือ ถ้าไฟหน้าแตก จะบอกว่าชนกระถางก็กระไรอยู่ จริงไหมครับ แต่ทางบริษัทประกันภัยก็อาจจะเล่นแง่อีก ดังนั้นอย่าบอกว่าโดนชนแล้วหนีนะครับ ไม่อย่างนั้นอาจจะโดนทางบริษัทประกันขอให้ตามหาคู่กรณี แล้วเรื่องก็จะยืดเยื้อไปเรื่อย ไม่ได้เคลมสักทีนั่นเอง

✅ขอเลขเคลมได้ทั้งคั้น
การขอเลขเคลมนี้ เราสามารถขอเลขเคลมได้ทั้งคันนะครับ ไม่ว่าเราจะชนมานานแค่ไหนแล้วก็ตาม แต่ว่าอย่าลืมทำตามข้อ 1 นะครับ คือแจ้งวันเกิดเหตุให้ใกล้กับวันแจ้งเหตุที่สุดจะเป็นการดี หากมีหลายแผล หลายระดับความเก่า อันนั้นคงต้องคิดแผนกันอีกทีครับ

✅เมื่อได้เลขเคลมแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับเราแล้วครับว่าเราจะนำรถเข้าซ่อมเมื่อไหร่ ไม่ได้จะต้องนำรถเข้าซ่อมทันทีหลังได้เลขเคลมนะครับ ใบเคลมจะมีอายุประมาณ 1 ปี เอาเป็นว่านำรถเข้าซ่อมก่อนใบเคลมหมดอายุก็พอครับ

✅นำรถเข้าซ่อม
เมื่อได้ฤกษ์จะนำรถเข้าซ่อม ก็เพียงแค่นำรถไปที่ศูนย์บริการ พร้อมใบเคลมครับ ยื่นใบเคลม พร้อมเซ็นเอกสารสั่งซ่อม ทางศูนย์ก็จะทำการประเมินแล้วนัดวันรับรถ หากซ่อมจุกจิก ทางบริษัทประกันอาจจะแนะนำอู่ให้เราถือใบเคลมไปเปลี่ยนเอง แบบนั้นก็สามารถนั่งรอรับรถได้เลยครับ

✅ชื่อคนขับไม่ตรงกับชื่อคนแจ้งเคลม
ส่วนนี้จริงๆ แล้วไม่น่าจะมีปัญหานะครับ เพราะส่วนใหญ่คนที่มีพลขับรถก็จะให้พลขับเป็นคนจัดการ และเป็นคนเซ็นใบเคลม แต่หากบริษัทประกันจะเล่นแง่ ก็บอกตามจริงไป ว่าเอารถสามี หรือภรรยามาขับ เรื่องมากอีก ขู่ว่าจะถอนประกันไปทำกับบริษัทอื่นเลย
            🔰ซื้อประกันภัยรถอย่างเข้าใจ🔰
           🎖️คลิกง่าย​ คุ้มครองดี​ มีคนดูแล🎖️
แอดเลย➡️ ถูกดีประกันภัย-ประกันรถยนต์ พรบ. มากกว่า 35 บริษัท ประกันอัคคีภัย และอื่นๆ 
รับคำปรึกษาเพิ่มเติม คลิกเลย

#ประกันภัยรถยนต์​ #ประกันชั้น1​ #เคลมประกัน​ #ค่าเสียหายส่วนแรก​ #ประกันรถ

⚠️ระวัง​ ซื้อประกันออนไลน์​เอง​ เบี้ยถูกแต่ทุนต่ำ❗

🔴ยุคออนไลน์​อะไรก็ง่ายแค่​ คลิก❗
ในวงการประกันรถก็เช่นกันครับสมัยนี้ซื้อง่ายขายคล่อง​ แต่ถ้าขาดความรู้ความเข้าใจ​ เราก็อาจจะตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ​โดยไม่รู้ตัวได้เช่นกัน​ ด้วยความไม่ทราบในข้อเท็จจริง​ในข้อมูล​ระเบียบด้านประกันภัย​👉 แล้วอะไรบ้างล่ะที่ควรระวัง❓
✳️จากที่ผู้เขียนได้ลองเข้าไปใช้ระบบประกันออนไลน์​ที่มีอยู่ในตลาดทั้งหมดได้พบความจริงที่ว่า​ การแข่งขันในด้านเบี้ยประกันมีสูงมาก​ แต่ละที่จึงนำเทคนิคให้ค่าเบี้ยถูกลงด้วยหลากหลายวิธี อาทิเช่น​ ค่าเสียหายส่วนแรก​, ระบุผู้ขับขี่​ หรือการจำกัดระยะทาง​ เป็นต้น​ แต่ที่สำคัญที่หลายคนมักมองข้ามและไม่ทราบเลยก็คือทุนประกันรถนั้นเอง​ จึงข้อหยิบประเด็นนี้มาพูดคุยกัน

⚠️ซื้อประกันรถออนไลน์​เอง​ ได้เบี้ยถูกจริง​ แต่ทุนประกันรถต่ำกว่าราคาประเมินรถเราที่แท้จริงเช่นกัน​ ให้ระวัง​ ❗

✳️โดยพื้นฐานแล้วรถทุกคันจะมีทุนประกันรถที่แท้จริงของมันอยู่แล้ว​โดยมีหลักคำนวนดังนี้

 🔴 👉 ออกรถป้ายแดง
     ✅ ทุนประกันเต็ม​ = ราคารถ​ * 80% (หรือ​ 85%)
⚠️ระวังตอนออกรถใหม่ไฟแนนซ์​จะตีทุนประกันรถตามวงเงินปล่อย​สินเชื่อกรณีลูกค้าวางดาว์นสูง ผิดหลักการพิจารณา​ เพราะทุนประกันรถน้อยลงประกันที่แถมให้ก็ประหยัดขึ้นนั้นเอง
 🔴 👉 ในปีที่สอง​ และถัดไป​เรื่อยๆ
     ✅ ทุนประกันเต็ม​ = ทุนประกันเดิมปีก่อน​ -​ 10%
⚠️ ระวังการเสนอเบี้ยที่แข่งขันกันถูกๆเค้าจะใช้​วิธี​ลดทุนประกันลง​โดยถ้าเราไม่ทราบตรงนี้​ เห็นดีเห็นชอบคลิกซื้อออนไลน์​ไปก็ชมบอกต่อว่าถูกและดี​ ด้วยความหลงในข้อเท็จจริง​การเอาประกันภัย
📝 ทุนประกันรถต่ำเกินจริงมีผลอะไรล่ะ❗
หลายคนบอกก็ซื้อผ่านออนไลน์​กับเจ้านี้ตลอดไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลยเบี้ยถูกผ่อนได้​ 10​ งวดด้วย😁.. ใช่ครับเพราะทุนประกันรถที่ต่ำไม่ได้มีผลต่อการเคลมเล็กๆน้อยๆ​ แต่จะส่งผลต่อเมื่อรถท่านมีความเสียหายหนักจนต้องคืนทุนประกัน​ นี่แระครับที่เค้าจะมาดูว่าท่านได้ทำทุนประกันใว้ที่เท่าไหร
  👉ยกตัวอย่างเช่น
        รถท่านมีมูลค่าจริง​ ณ​ วันที่รับทำประกัน​ 900,000​ บาท​ แต่ท่านได้คลิกซื้อประกันออนไลน์​เองที่กำหนดทุนให้ท่าน​ 750,000​ บาทโดยท่านดูแต่เบี้ยถูกๆ​ที่ระบบเสนอมาให้ และไม่​ทราบถึงการพิจารณา​ทุนประกัน​จริงนั้น ท่านก็จะหลงในข้อเท็จจริง​ดังกล่าวเห็นว่าเบี้ยถูกมากก็ซื้อไป​ สุดท้ายหากท่านเกิดเหตุไม่คาดฝันรถถูกชนพังยับต้องพิจารณา​คืนทุนประกัน​ ท่านก็จะได้ตามทุนที่ทำใว้คือ​ 750,000​ บาท​ ทั้งๆที่รถท่านควรได้​ 900,000​ บาท​ แบบนี้หากท่านคิดว่ารับได้และเหตุการณ์​แบบนี้คงจะไม่เกิดกับท่านก็วินวินทำได้ครับ.. แต่อย่าบอกต่อในสิ่งที่ท่านหลงผิดในข้อ​เท็จจริง​ที่กล่าวมาให้บุคคล​อื่น... เพราะเหตุการณ์​ไม่คาดฝันมีโอกาสเกิดขึ้นกับทุกคนได้เสมอ.. #ประกันภัยรถยนต์ต้องมีคนดูแล​
🙏สุดท้ายนี้ที่กล่าวมาทั้งหมดคือประสบการณ์​ตรงที่ได้มาจากข้อร้องเรียนจากลูกค้าและการเข้าใช้บริการเองและตรวจสอบเชิงลึกมิได้มีเจตนาลดคุณค่าการเสนอขายประกันเจ้าใด​ เพียงแต่หวังให้ข้อมูล​อันเท็จจริงแก่ผู้เอาประกันภัย​เท่านั้น​
ขอบคุณ​ครับ
รับคำปรึกษาเพิ่มเติม คลิกเลย

🔴ตกแต่งรถเพิ่ม​ ประกันคุ้มครองไหม❓

👉หลายคนที่มีรถ ย่อมต้องรักรถของตัวเองเป็นธรรมดา ซึ่งในบางครั้งนอกจากรักรถแล้ว ยังชอบที่ตกแต่งรถเพิ่มอีกด้วย และด้วยความนิยมในการแต่งรถนี้จึงทำให้ร้านประดับยนต์ต่างๆ ผุดขึ้นมามากมาย เพื่อตอบรับความต้องการ และการแต่งรถนี้หลายๆ คนอาจสงสัยว่าประกันคุ้มครองหรือไม่ วันนี้จะพาไปดูกันว่าประกันจะคุ้มครองไหม❓

🔴ประกันชั้นไหนคุ้มครองรถแต่งบ้าง?
อยู่ที่การพูดคุยตอนแรกในการทำประกันครับ เพราะถือเป็นรายละเอียดปลีกย่อย ที่อาจมีการคิดค่าเบี้ยประกันเพิ่มขึ้นจากปกติ ซึ่งขึ้นอยู่กับทางบริษัทประกันจะเป็นผู้กำหนด
แต่โดยทั่วไปจะคุ้มครองเหมือนกรณีรถที่ไม่ได้แต่ง จะมีแตกต่างแค่ส่วนที่เเต่งเพิ่มเติม หากไม่ได้ระบุอยู่ในกรมธรรม์จะไม่มีการรับผิดชอบจากบริษัทประกันครับ ต่อให้เป็นประกันชั้น 1 ก็ตาม

🤔เชื่อหรือไม่ว่าการแต่งรถบางอย่างทำให้เบี้ยประกันภัยรถยนต์ราคาลดลง⁉️

👉ไม่เสมอไปว่าการแต่งรถจะทำให้เบี้ยประกันภัยสูงขึ้น ในมุมมองของบริษัทประกันรถยนต์ การแต่งรถบางอย่างอาจมองได้ว่าเป็นประโยชน์ต่อคุณ เช่น
✅การติดตั้งเซนเซอร์ถอยหลัง เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงเรื่องการชนจากการถอยรถ
✅การติดฟิล์มที่กระจกรถ ก็ถือเป็นการเพิ่มความแข็งแรงให้กับกระจกรถได้ ทำให้เมื่อเกิดอุบัติเหตุ มีของตกใส่รถ หรือมีคนพยายามทุบกระจก กระจกจะไม่แตกโดยง่าย
ซึ่งทั้งสองตัวอย่างที่ยกมานี้อาจทำให้บริษัทประกันลดราคาเบี้ยประกันรถยนต์ของเราก็เป็นได้

🔴กรณีเกิดอุบัติเหตุจะคุ้มครองเหมือนรถปกติหรือไม่❓
👉คุ้มครองตามที่ระบุในกรมธรรม์ตามปกติ ซึ่งจะคุ้มครองเฉพาะชิ้นส่วนหรืออุปกรณ์ตกแต่งรถที่ระบุไว้ในกรมธรรม์เท่านั้นครับ เพราะตอนที่เราทำประกันจะมีการตรวจสภาพรถยนต์บันทึกไว้เป็นหลักฐาน หากเรามีการตบแต่งเพิ่มภายหลังแล้วไม่แจ้งประกัน ประกันจะไม่คุ้มครองครับ เพราะอยู่นอกเหนือจากกรมธรรม์หรือเรียกง่ายๆ ว่า ประกันไม่รับรู้ นั้นเองครับ
🔰หากเรามีการแต่งรถเพิ่มเติมหลังจากทำประกัน และส่วนที่เพิ่มเติมมาไม่ได้ระบุความคุ้มครองในกรมธรรม์(หรือประกันไม่รับรู้) แนะนำว่าให้รีบแจ้งไปยังบริษัทประกันให้เร็วที่สุด เพื่อที่ทางบริษัทจะส่งเจ้าหน้าที่มาประเมินราคาและเพิ่มความคุ้มครอง แต่เราก็อาจจะต้องเพิ่มทุน ประกันภัยรถยนต์ด้วย
*เอกสารสำคัญเพื่อยื่นคือใบเสร็จรับเงิน​แบบมี​ VAT​ เพื่อที่บริษัท​ประกันจะได้สามารถพิจารณา​วงเงินคุ้มครองในอุปกรณ์​ชิ้นนั้นๆได้แต่อย่าคาดหวังนะครับว่สจะได้เต็ม​ 100% ของมูลค่าเต็ม

🔴ข้อดี-ข้อเสีย ของการมีประกันภัยรถยนต์คุ้มครองรถแต่ง
✅ข้อดี
หากเกิดอุบัติเหตุขึ้น มีความคุ้มครองในส่วนนี้ทำให้เราได้รับการดูแลค่าเสียหายทรัพย์สินให้คู่กรณี(หากมี)และค่ารักษาพยาบาลจากบริษัทประกัน (กรณีแจ้งรายละเอียดของการแต่งครบถ้วน)
ไม่ต้องเสียเงินค่าซ่อมรถและค่ารักษาพยาบาลเอง ถ้าอยู่ในเงื่อนไขกรมธรรม์ ทำให้เราประหยัดเงินในส่วนนี้ไปได้ (กรณีแจ้งรายละเอียดของการแต่งครบถ้วน)
ทำประกันภัยรถยนต์ชั้นไหนก็ได้ความคุ้มครองส่วนนี้ไปด้วยเลย (กรณีแจ้งรายละเอียดของการแต่งครบถ้วน)
❌ข้อเสีย
หากมีการแต่งรถเพิ่มหลังจากทำประกันแล้วไม่ได้แจ้งรายละเอียดของการแต่งให้ครบถ้วน ส่วนที่ไม่ระบุในกรมธรรม์จะไม่ได้รับความคุ้มครอง
กรณีแต่งเพิ่มหลังจากทำประกัน แล้วแจ้งเพิ่มความคุ้มครอง เราอาจต้องเสียเบี้ยประกันเพิ่มขึ้น
📌สรุป🔰
หากเราชอบแต่งรถก็ควรที่จะแจ้งประกันให้ทราบรายละเอียดสิ่งที่เราแต่งมาให้ครบ เพื่อที่จะได้ความคุ้มครองอย่างครบถ้วน อาจจะต้องเสียเบี้ยเพิ่มอีกหน่อยแต่รับรองว่า ไม่ต้องเสียใจตอนเกิดอุบัติเหตุอย่างแน่นอน
หากเพื่อนๆสมาชิก ต้องการหาข้อมูลหรือเปรียบเทียบประกันรถยนต์ ในส่วนรายละเอียดอื่นๆ สามารถลองใช้บริการที่​ ถูกดีประกันภัย-ประกันรถยนต์ พรบ. มากกว่า 35 บริษัท ประกันอัคคีภัย และอื่นๆ ได้ครับ
________________________
รับคำปรึกษาเพิ่มเติม คลิกเลย

🔴ขับรถไปลุยน้ำท่วมประกันจ่ายไหม❗

😲 ขับรถเจอน้ำท่วม เคลมประกันได้ไหม?

1️⃣ ตรวจสอบความคุ้มครองของกรมธรรม์ 
ถ้าทำประกันชั้น 1 เอาไว้สบายใจได้ เพราประกันภัยชั้น 1 ครอบคลุมถึงเหตุภัยพิบัติต่างๆ ซึ่งรวมถึงกรณีรถคุณถูกน้ำท่วม

ถึงแม้ประกันภัยชั้น 1 จะครอบคลุม การถูกน้ำท่วม หรือลุยน้ำท่วม แต่ก็มีเรื่องที่คุณควรจะทราบว่าไม่ใช่ทุกกรณีที่ประกันจะรับผิดชอบเคลมให้ คือ

1.หากเลี่ยงพื้นที่น้ำท่วมได้ ควรเลี่ยง เช่นคุณไม่ได้อยู่ในเขตน้ำท่วม แต่ขับรถไปช่วยเขตน้ำท่วม แบบนี้ประกันอาจจะไม่จ่ายเป็นได้

2.เมื่อรถพังขับต่อไม่ได้ มีกรณีที่น่าสนใจในเรื่องนี้ ว่า ถ้ากรณีรถคุณพังขับต่อไม่ได้ ไม่ว่าจะระหว่างลุยน้ำหรือ หลังจากผ่านน้ำท่วมมา ให้คุณจอดดับเครื่องโทรเรียกประกันภัยของคุณทันที แล้วแจ้งเหตุที่คุณประสบคล้ายอุบัติเหตุ อย่าพยายามสตาร์ทเครื่องยนต์อีก เนื่องจากความพยายามของคุณอาจถูกมองเป็นเหตุ จงใจทำให้ได้รับความเสียหายเพิ่มขึ้น ดังนั้น ถ้าลุยน้ำท่วมแล้วรถน็อก ทำอย่างเดียว คือ ทิ้งรถ โทรเรียกประกัน ที่สำคัญ อย่าลืม ถ่ายภาพ เป็นหลักฐาน

2️⃣ ประกันมองมูลค่าความเสียหายอย่างไร?

สำหรับบริษัทกันแล้ว กรณีรถจมน้ำ หรือถูกน้ำท่วม จะมอง เป็นสอง กรณีใหญ่ คือ

1. เสียหายทั้งหมด คือ เมื่อระดับน้ำท่วมนั้นสุงมากจนอาจจะเกินขอบคอนโซลหน้าเหนือระดับเรือนไมล์ขึ้นไป ซึ่งเป็นระดับที่เครื่องยนต์ดำอยู่ใต้น้ำทำให้ได้รับความเสียหายทั้งหมด ทางบริษัทจะตีเป็นเสียหายโดยสิ้นเชิง

2.ความเสียหายบางส่วน คือ กรณีรถคุณยังมีระดับน้ำไม่สูง เช่น น้ำเข้ารถ แต่ไม่ท่วมถึงคอนโซลหน้า ทางประกัน จะรับผิดชอบค่าความเสียหายตามมูลค่าจริงที่เกิดขึ้น โดยในบางรายการอาจจะหักค่าสึกหรอที่เกิดขึ้นในระหว่างการใช้งาน แต่จะทำการเคลมแล้วปรับปรุงสภาพจนเหมือนใหม่

 
3️⃣ วิธีปฏิบัติเมื่อเราจำเป็นต้องขับรถฝ่าน้ำท่วม

แต่ถ้ามีความจำเป็นต้องขับรถฝ่าน้ำท่วมไปให้ได้ ควรขับรถยนต์อย่างไรเพื่อเลี่ยงอาการเครื่องยนต์ดับนั้น เริ่มจาก

🙋🏻‍♂️ ตั้งสติให้พร้อมก่อน

🙋🏻‍♂️ สังเกตความสูงของระดับน้ำจากหลักถนนหรือเสาไฟฟ้างทาง ว่ารถยนต์ของเราสามารถขับไปได้หรือเปล่า

🙋🏻‍♂️ ปิดแอร์ทันที

🙋🏻‍♂️ ปรับมาใช้เกียร์ต่ำ รถธรรมดา คือ เกียร์ 1 หรือ 2 ถ้าเป็นรถเกียร์ออโต้ให้ใช้เกียร์ L ขับช้าๆ

🙋🏻‍♂️ อย่าเร่งเครื่องยนต์ให้รอบสูงเด็ดขาด เพื่อป้องกันน้ำเข้าห้องเครื่องตลอดทางจนขับผ่านน้ำท่วมไปได้

🙋🏻‍♂️ หลังจากผ่านน้ำท่วมมาแล้ว อย่าเพิ่งดับเครื่องยนต์ให้รอซักพักจนไม่มีน้ำค้างอยู่ที่ท่อไอเสียแล้วค่อยดับเครื่อง

😰 แต่เมื่อรถเราดับท่ามกลางน้ำที่ท่วมขังจะทำอย่างไร?​ ถ้าคุณคือลูกค้า​ ถูกดีประกันภัย-ประกันรถยนต์ พรบ. มากกว่า 35 บริษัท ประกันอัคคีภัย และอื่นๆ ปัญหานี้หมดไปแน่นนอนเพราะคุณจะ​ "รู้ทันก่อน​ ก่อนเสียรู้" 

📲 เมื่อรถเราดับท่ามกลางน้ำท่วม ให้โทรหาบริษัทประกันรถยนต์ก่อนเพื่อตรวจสอบว่ากรมธรรม์ของเราเป็นประเภทไหน?ครอบคลุมความเสียหายจากภัยธรรมชาติหรือเปล่า? หลังจากนั้นพนักงานเคลมประกันจะมาหาคุณที่ที่เกิดเหตุ เพื่อประสานงานเรื่องรถยก รถลาก ให้เรารอความช่วยเหลือได้อย่างสบายใจได้

ปรึกษา​ประกันภัยครบวงจร

🔴มีประกันซ่อมศูนย์​ แต่ก็ไม่ได้เข้าได้ทุกศูนย์ซ่อม❗

🔴ประกันชั้น 1 ซ่อมไม่ได้ทุกศูนย์จริงหรอ?
หลายคนคงไม่เข้าใจว่าทำม้ายยยย!! ทำไม!? อยากเอารถเข้าซ่อมศูนย์นี้ แต่บริษัทประกันกลับบอกว่าเอาเข้าไม่ได้ ทั้งๆ ที่ก็เป็นศูนย์ห้างที่มีชื่อเสียง น่าเชื่อถือ แต่ทำไมละถึงเอาเข้าซ่อมไม่ได้ ขัดใจนัก ต้องไปถาม​ ถูกดีประกันภัย-ประกันรถยนต์ พรบ. มากกว่า 35 บริษัท ประกันอัคคีภัย และอื่นๆ ซะละ 

👉อาจเป็นไปได้ว่า ศูนย์ซ่อมดังกล่าวไม่ได้ตกลงประสานงานกับบริษัทประกันภัยนั้นๆ อาจจะด้วยเรื่องของข้อตกลงค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็น ราคา ค่าแรง ค่าอะไหล่ เวลางานที่ต้องทำให้เสร็จ การสำรองจ่ายก่อนของลูกค้า ฯลฯ แต่โดยปกติแล้วบริษัทประกันภัยจะประสานงานกับศูนย์ซ่อมทุกยี่ห้อแต่อาจจะไม่ทั่วประเทศไทย เนื่องด้วยเงื่อนไขต่างๆ

✳️ทั้งนี้ทั้งนั้น หากต้องการนำรถเข้าศูนย์ซ่อมที่ไม่ได้อยู่ในเครือของบริษัทก็สามารถทำได้ค่ะ ก่อนซ่อมเราต้องแจ้งศูนย์ซ่อมก่อน แล้วทางศูนย์ซ่อมจะให้เราแจ้งบริษัทประกันที่เราทำไว้ เพื่อคุยและตกลงเรื่องค่าใช้จ่ายก่อน ซึ่งถ้าได้รับการอนุมัติจากบริษัทประกัน เราจะต้องสำรองออกค่าใช้จ่ายไปก่อน และทำเรื่องเบิกกับบริษัทประกันภายหลัง ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลานาน ซึ่งถ้าเราไม่สะดวกก็สามารถย้ายศูนย์ซ่อมที่อยู่ในเครือของบริษัทได้

📝ในกรณีดังกล่าว ผมขอแนะนำว่า ก่อนทำประกันควรจะดูรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นซ่อมศูนย์หรือซ่อมอู่ ควรตรวจสอบว่าในบริเวณที่เราอาศัยอยู่มีอู่ของทางบริษัทที่ไหนบ้าง และถามพนักงานขายให้ชัดเจนว่าสามารถซ่อมได้หรือไม่ เพื่อป้องกันเหตุการณ์ดังกล่าวนะครับ หากสนใจประกันดี ๆ นึกถึง​ ถูกดีประกันภัย ทักผมมาได้เลยครับพร้อมให้คำปรึกษา ตรวจสอบ​ วิธีการขายผมอาจจะละเอียดหน่อยแต่หมดกังวลหลังการขายดูแลกันตลอดสัญญา
​🔴รับคำปรึกษาเพิ่มเติม คลิกเลย

🔴ประกันรถออนไลน์​ ซื้อง่าย​ แต่เจ็บ⚠️

🔴ว่างๆยามฝนตกพรำ🌧️
 ลองเข้าไปคลิกดูเบี้ยประกันออนไลน์​เจ้านึงที่ทุ่มโฆษณา​เหลือเกิ๊น​ว่าตนถูกปรับแต่งเบี้ยได้เอง

📝 ทดสอบโดยใช้ข้อมูลรถ​ CITY​ รุ่น​ S+ ปี​ 2020
ผลที่ระบบสรุปได้เบี้ยประกันชั้น1มาที่​ 10,964 บาท
สุด​ WOW​ ตัสม๊ากพ่อ🎉
⛔คราวนี้มาวิเคราะห์​กันว่าได้อะไรมา
     👉 ทุนประกัน​รถ 500,000​ บาท​
     👉 มีค่าเสียหาย​ส่วนแรก​ 3,000​ บาท
      ( ต้องคลิกเข้าไปถึงสามขั้นตอนถึงจะเห็น)
     👉 ระบุผู้ขับขี่อีกต่างหาก
      ( โดยนำข้อมูล​เราตอนที่ใส่ในระบบครั้งแรก)​
     👉 ซ่อมอู่นะจ๊ะ​

📝 คราวนี้มาปรับแต่งกันตามคำโฆษณา
🤔 เอาทุกอย่างออกให้หมดให้เป็น​ ประกันชั้น​ 1​ ซ่อมศูนย์ แบบปกติเหมือนกับที่อื่นเค้า​ Ohhhhh❗..
เบี้ยขึ้นไปเรื่อยๆ​จบที่​ 30,649 บาท​🤣 แพงกว่าบริษัท​เกรด​ A ชั้นนำในท้องตลาดทั่วไปสะอีก

✳️แล้วแบบนี้หากมือใหม่ที่ยังไม่มีพื้นฐานจะหลงผิดในข้อ​เท็จจริง​ในสาระสำคัญ​ที่ผู้เอาประกันภัย​ควรทราบหรือไม่​ ปัญหา​ที่มักจะพบคือตอนเคลมเข้าที่นั้นไม่ได้ที่นี่ไม่ได้เพราะไม่ใช่​ศูนย์​/อู่ในเครือประกัน​ จะเคลมแบบไม่มีคู่กรณี​ก็เสียเงินเพิ่มอีก​ แย่กว่านั้นเกิดเหตุบางทีเคลมไม่ได้เพราะทำปนะกันแบบระบุผู้ขับขี่โดยไม่ทราบ​ และเหตุที่เกิดเป็นบุคคล​อื่นขับก็ช้ำใจมีเยอะ​ ส่วนคนที่ไม่เคยเคลมก็จะบอกว่าโอ้วสุดยอดราคาถูกซื้อง่ายบอกปากต่อปากไปกขายเป็นช่วยแนะนำให้คนอื่นหลงผิดตามในสาระสำคัญที่ตนก็ไม่ได้ทราบนั้นเอง #ประกันภัยรถยนต์ต้องมีคนดูแล

✅การทำประกันรถที่ดีที่สุด​ คือการทำให้ตัวเราเข้าใจให้มากที่สุดในด้านประกันภัย🙏
#เคลมประกัน​ #ประกันชั้น1​ #ประกันรถออน์ไลน์

*เนื้อหาในบทความด้านบนมิได้มีเจตนาลดความน่าเชื่อถือของการขายประกันออนไลน์​เจ้าไหนแต่อย่างใด​ เพียงแต่มุ่งเน้นให้ผู้เอาประกันภัย​ได้พิจารณา​ความในข้อเท็จจริง​ของเงื่อนไขความคุ้มครองอย่างรอบด้านเพื่อประโยชน์​แก่ตัวผู้เอาประกันภัย​เองตามบทจรรยาบรรณ​ที่ระบุใว้ต่อนายหน้า​/ตัวแทน
⭕รับคำปรึกษาเพิ่มเติม คลิกเลย