แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ เคลมประกัน แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ เคลมประกัน แสดงบทความทั้งหมด

วันอังคารที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2567

ขับรถแล้วถูกชนแต่จำคู่กรณีไม่ได้

          
อุบัติเหตุรถชนกับการประกันภัยเป็นของคู่กัน เพราะการประกันภัยผู้ที่ทำประกันไว้ก็ย่อมมุ่งหวังที่จะให้บริษัทรับประกันภัยจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้เมื่อยามที่เกิดอุบัติเหตุขึ้น แต่บางครั้งการจะได้รับชดใช้ค่าสินไหมทดแทนหรือไม่อาจไม่ได้ง่าย ๆ ตรงไปตรงมา แต่มีข้อที่ต้องระวังและคำนึงถึงโดยเฉพาะเงื่อนไขตามกรมธรรม์ ซึ่งในตอนนี้คงมาคุยกันกับปัญหากรณีที่เกิดอุบัติเหตุแล้วแต่เราจำรถยนต์คู่กรณีไม่ได้จะมีผลอย่างไรกับสิทธิได้รับการชดใช้จากบริษัทประกันภัย
         นายเก้งขับรถยนต์ไปเที่ยวพัทยากับครอบครัว ระหว่างที่รถกำลังแล่นผ่านสี่แยกแห่งหนึ่งใกล้กับพัทยา รถยนต์อีกคันได้วิ่งฝ่าไฟสัญญาณจราจรสีแดงมาจากอีกทางหนึ่ง รถยนต์คันดังกล่าวเฉี่ยวชนกับรถยนต์ของนายเก้งที่บังเอิญเห็นว่ามีรถออกมาจากอีกทาง แม้นายเก้งจะพยายามหักหัวรถหนีแล้วแต่ก็ไม่ทัน รถยนต์ของนายเก้งเสียหลักไปชนกับเสาไฟฟ้าข้างทาง เมื่อนายเก้งตั้งสติได้ก็รีบหันไปดูบุตรของตนที่นั่งอยู่ที่เบาะหลัง โชคดีที่ไม่มีใครได้รับอันตรายร้ายแรง แต่เมื่อนายเก้งมองหารถยนต์ที่มาชนรถตน ปรากฏว่ารถคันดังกล่าวอาศัยจังหวะที่นายเก้งกำลังตกอกตกใจ ขับรถหนีไปแล้ว นายเก้งเห็นจากระยะทางไกลเพียงรู้ว่าเป็นรถยนต์สีดำยี่ห้อหนึ่ง แต่ระยะทางไกลเกินกว่าจะเห็นทะเบียนรถยนต์คันนั้นได้ 
          ก่อนเกิดเหตุ นายเก้งได้ทำประกันภัยรถยนต์ใน “แบบคุ้มครองเฉพาะภัย” ไว้กับบริษัทประกันภัยแห่งหนึ่ง แต่เมื่อเรียกร้องให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน บริษัทประกันภัยกลับไม่ยอมจ่ายให้โดยอ้างว่านายเก้งจำคู่กรณีไม่ได้จึงเข้าข้อยกเว้นที่บริษัทประกันภัยไม่ต้องรับผิด
         คนจำนวนไม่น้อยมักเข้าใจว่าเมื่อทำประกันภัยไว้แล้วและเกิดอุบัติเหตุขึ้น ตนเองย่อมจะต้องมีสิทธิได้รับการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัย เพราะการที่จ่ายค่าเบี้ยประกันภัยไปก็เพื่อหวังจะได้รับความคุ้มครองเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นดังเช่นกรณีของนายเก้งนี้ แต่เบี้ยประกันและขอบเขตความคุ้มครองนั้นมักมีความสัมพันธ์กัน หากความคุ้มครองมากเบี้ยประกันภัยย่อมสูงตามไป หากความคุ้มครองจำกัดลงเบี้ยประกันภัยก็อาจดูเหมือนถูกลง แต่ที่ถูกลงเป็นเพราะผู้เอาประกันภัยได้รับความคุ้มครองที่น้อยลงตามไปด้วย
          กรณีของนายเก้งนี้ หากสังเกตดูจะเห็นว่าเป็นการประกันภัย “แบบคุ้มครองเฉพาะภัย” จึงสื่อความหมายในตัวว่าไม่ได้คุ้มครองภัยทุกประเภท เช่น อุบัติเหตุที่จะคุ้มครองจะจำกัดเฉพาะกรณี “ชนกับยานพาหนะทางบก” เท่านั้น หากนายเก้งขับรถไปแล้วเกิดมีเครื่องบินแบบที่เป็น “โดรน” พุ่งมาชนก็อาจจะกลายเป็นภัยที่ไม่อยู่ในความคุ้มครองตามกรมธรรม์ไปแล้ว เพราะสิ่งที่มาชนไม่ใช่ “ยานพาหนะทางบก” 
         แต่ปัญหาของนายเก้งในกรณีนี้อยู่ที่เงื่อนไขตามกรมธรรม์ส่วนที่ระบุว่าบริษัทจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้ต่อเมื่อ “ผู้เอาประกันภัยสามารถแจ้งให้บริษัททราบถึงคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งได้...”สาเหตุสำคัญที่มีการกำหนดเงื่อนไขลักษณะนี้คงเป็นเพราะการที่บริษัทประกันภัยจะได้ไปไล่เบี้ยเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนที่จ่ายไปคืนจากคู่กรณีได้หากคู่กรณีนั้นเป็นฝ่ายผิดและก่อให้เกิดอุบัติเหตุนั้นขึ้น ถ้าหากไม่รู้ว่าคู่กรณีเป็นใครก็ทำให้ไม่สามารถไปไล่เบี้ยเอาได้โดยสภาพ 
          ในเรื่องของการแจ้งให้ทราบถึงคู่กรณีอีกฝ่ายได้นี้ คู่มือการตีความกรมธรรม์ตามที่กำหนดโดยเลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยซึ่งเป็นนายทะเบียนกำหนดไว้ว่าอาจเป็นการระบุตัวผู้ขับขี่รถยนต์คู่กรณีโดยตรงเลยก็ได้ เช่น เมื่อชนกันแล้วจอดรถลงมาพูดคุยและมีการขอดูใบอนุญาติขับขี่รถหรือบัตรประจำตัวประชาชนและถ่ายภาพไว้ หรือหากไม่รู้ตัวผู้ขับขี่ก็จะต้องสามารถระบุหมายเลขทะเบียนรถยนต์คู่กรณีให้บริษัทประกันภัยทราบได้ ซึ่งจะใช้ได้กับกรณีที่เมื่อเกิดเหตุแล้วไม่มีการมาพูดคุยกันแต่อาจขับหนีไปเลย
           บังเอิญโดยเป็นคราเคราะห์ของนายเก้งที่เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น นายเก้งตกใจกับเหตุที่เกิดขึ้นและด้วยความเป็นห่วงครอบครัวที่อยู่ในรถจึงไม่ทันได้รีบมองรถยนต์คู่กรณี จนรถยนต์คันดังกล่าวหนีไปไกลเกินกว่าจะเห็นเลขทะเบียนแล้ว แม้จะจำสีและยี่ห้อรถได้แต่ก็ไม่เพียงพอ เพราะรถยนต์ยี่ห้อนั้นที่มีสีเดียวกันอาจมีมากจนเกินกว่าระบุได้ว่าเป็นรถคันใดกันแน่ จึงทำให้เข้าข้อยกเว้นตามกรมธรรม์ที่บริษัทประกันภัยไม่ต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้
          ในการหวังความคุ้มครองจากกรมธรรม์ เราอาจต้องศึกษาดูเงื่อนไขตามกรมธรรม์ที่อุตส่าห์เสียเงินเสียทองจ่ายค่าเบี้ยประกันไปด้วยว่าให้ความคุ้มครองกรณีใดบ้าง และมีเงื่อนไขอย่างไรที่ต้องทำเพื่อให้ได้รับความคุ้มครองตามที่ต้องการอย่างเช่นกรณีการทำประกันภัยแบบคุ้มครองเฉพาะภัยนี้เมื่อเกิดเหตุต้องรีบจดจำคู่กรณีให้ได้ แม้ไม่รู้ชื่อ อย่างน้อยก็ต้องจำเลขทะเบียนรถยนต์คู่กรณีไว้ให้ดีแล้วเราจะได้รับความคุ้มครองสมกับที่หวังไว้

                                                                                                                 (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5238/2561)

วันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

⚠️ระวัง​ ซื้อประกันออนไลน์​เอง​ เบี้ยถูกแต่ทุนต่ำ❗

🔴ยุคออนไลน์​อะไรก็ง่ายแค่​ คลิก❗
ในวงการประกันรถก็เช่นกันครับสมัยนี้ซื้อง่ายขายคล่อง​ แต่ถ้าขาดความรู้ความเข้าใจ​ เราก็อาจจะตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ​โดยไม่รู้ตัวได้เช่นกัน​ ด้วยความไม่ทราบในข้อเท็จจริง​ในข้อมูล​ระเบียบด้านประกันภัย​👉 แล้วอะไรบ้างล่ะที่ควรระวัง❓
✳️จากที่ผู้เขียนได้ลองเข้าไปใช้ระบบประกันออนไลน์​ที่มีอยู่ในตลาดทั้งหมดได้พบความจริงที่ว่า​ การแข่งขันในด้านเบี้ยประกันมีสูงมาก​ แต่ละที่จึงนำเทคนิคให้ค่าเบี้ยถูกลงด้วยหลากหลายวิธี อาทิเช่น​ ค่าเสียหายส่วนแรก​, ระบุผู้ขับขี่​ หรือการจำกัดระยะทาง​ เป็นต้น​ แต่ที่สำคัญที่หลายคนมักมองข้ามและไม่ทราบเลยก็คือทุนประกันรถนั้นเอง​ จึงข้อหยิบประเด็นนี้มาพูดคุยกัน

⚠️ซื้อประกันรถออนไลน์​เอง​ ได้เบี้ยถูกจริง​ แต่ทุนประกันรถต่ำกว่าราคาประเมินรถเราที่แท้จริงเช่นกัน​ ให้ระวัง​ ❗

✳️โดยพื้นฐานแล้วรถทุกคันจะมีทุนประกันรถที่แท้จริงของมันอยู่แล้ว​โดยมีหลักคำนวนดังนี้

 🔴 👉 ออกรถป้ายแดง
     ✅ ทุนประกันเต็ม​ = ราคารถ​ * 80% (หรือ​ 85%)
⚠️ระวังตอนออกรถใหม่ไฟแนนซ์​จะตีทุนประกันรถตามวงเงินปล่อย​สินเชื่อกรณีลูกค้าวางดาว์นสูง ผิดหลักการพิจารณา​ เพราะทุนประกันรถน้อยลงประกันที่แถมให้ก็ประหยัดขึ้นนั้นเอง
 🔴 👉 ในปีที่สอง​ และถัดไป​เรื่อยๆ
     ✅ ทุนประกันเต็ม​ = ทุนประกันเดิมปีก่อน​ -​ 10%
⚠️ ระวังการเสนอเบี้ยที่แข่งขันกันถูกๆเค้าจะใช้​วิธี​ลดทุนประกันลง​โดยถ้าเราไม่ทราบตรงนี้​ เห็นดีเห็นชอบคลิกซื้อออนไลน์​ไปก็ชมบอกต่อว่าถูกและดี​ ด้วยความหลงในข้อเท็จจริง​การเอาประกันภัย
📝 ทุนประกันรถต่ำเกินจริงมีผลอะไรล่ะ❗
หลายคนบอกก็ซื้อผ่านออนไลน์​กับเจ้านี้ตลอดไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลยเบี้ยถูกผ่อนได้​ 10​ งวดด้วย😁.. ใช่ครับเพราะทุนประกันรถที่ต่ำไม่ได้มีผลต่อการเคลมเล็กๆน้อยๆ​ แต่จะส่งผลต่อเมื่อรถท่านมีความเสียหายหนักจนต้องคืนทุนประกัน​ นี่แระครับที่เค้าจะมาดูว่าท่านได้ทำทุนประกันใว้ที่เท่าไหร
  👉ยกตัวอย่างเช่น
        รถท่านมีมูลค่าจริง​ ณ​ วันที่รับทำประกัน​ 900,000​ บาท​ แต่ท่านได้คลิกซื้อประกันออนไลน์​เองที่กำหนดทุนให้ท่าน​ 750,000​ บาทโดยท่านดูแต่เบี้ยถูกๆ​ที่ระบบเสนอมาให้ และไม่​ทราบถึงการพิจารณา​ทุนประกัน​จริงนั้น ท่านก็จะหลงในข้อเท็จจริง​ดังกล่าวเห็นว่าเบี้ยถูกมากก็ซื้อไป​ สุดท้ายหากท่านเกิดเหตุไม่คาดฝันรถถูกชนพังยับต้องพิจารณา​คืนทุนประกัน​ ท่านก็จะได้ตามทุนที่ทำใว้คือ​ 750,000​ บาท​ ทั้งๆที่รถท่านควรได้​ 900,000​ บาท​ แบบนี้หากท่านคิดว่ารับได้และเหตุการณ์​แบบนี้คงจะไม่เกิดกับท่านก็วินวินทำได้ครับ.. แต่อย่าบอกต่อในสิ่งที่ท่านหลงผิดในข้อ​เท็จจริง​ที่กล่าวมาให้บุคคล​อื่น... เพราะเหตุการณ์​ไม่คาดฝันมีโอกาสเกิดขึ้นกับทุกคนได้เสมอ.. #ประกันภัยรถยนต์ต้องมีคนดูแล​
🙏สุดท้ายนี้ที่กล่าวมาทั้งหมดคือประสบการณ์​ตรงที่ได้มาจากข้อร้องเรียนจากลูกค้าและการเข้าใช้บริการเองและตรวจสอบเชิงลึกมิได้มีเจตนาลดคุณค่าการเสนอขายประกันเจ้าใด​ เพียงแต่หวังให้ข้อมูล​อันเท็จจริงแก่ผู้เอาประกันภัย​เท่านั้น​
ขอบคุณ​ครับ
รับคำปรึกษาเพิ่มเติม คลิกเลย

🔴ตกแต่งรถเพิ่ม​ ประกันคุ้มครองไหม❓

👉หลายคนที่มีรถ ย่อมต้องรักรถของตัวเองเป็นธรรมดา ซึ่งในบางครั้งนอกจากรักรถแล้ว ยังชอบที่ตกแต่งรถเพิ่มอีกด้วย และด้วยความนิยมในการแต่งรถนี้จึงทำให้ร้านประดับยนต์ต่างๆ ผุดขึ้นมามากมาย เพื่อตอบรับความต้องการ และการแต่งรถนี้หลายๆ คนอาจสงสัยว่าประกันคุ้มครองหรือไม่ วันนี้จะพาไปดูกันว่าประกันจะคุ้มครองไหม❓

🔴ประกันชั้นไหนคุ้มครองรถแต่งบ้าง?
อยู่ที่การพูดคุยตอนแรกในการทำประกันครับ เพราะถือเป็นรายละเอียดปลีกย่อย ที่อาจมีการคิดค่าเบี้ยประกันเพิ่มขึ้นจากปกติ ซึ่งขึ้นอยู่กับทางบริษัทประกันจะเป็นผู้กำหนด
แต่โดยทั่วไปจะคุ้มครองเหมือนกรณีรถที่ไม่ได้แต่ง จะมีแตกต่างแค่ส่วนที่เเต่งเพิ่มเติม หากไม่ได้ระบุอยู่ในกรมธรรม์จะไม่มีการรับผิดชอบจากบริษัทประกันครับ ต่อให้เป็นประกันชั้น 1 ก็ตาม

🤔เชื่อหรือไม่ว่าการแต่งรถบางอย่างทำให้เบี้ยประกันภัยรถยนต์ราคาลดลง⁉️

👉ไม่เสมอไปว่าการแต่งรถจะทำให้เบี้ยประกันภัยสูงขึ้น ในมุมมองของบริษัทประกันรถยนต์ การแต่งรถบางอย่างอาจมองได้ว่าเป็นประโยชน์ต่อคุณ เช่น
✅การติดตั้งเซนเซอร์ถอยหลัง เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงเรื่องการชนจากการถอยรถ
✅การติดฟิล์มที่กระจกรถ ก็ถือเป็นการเพิ่มความแข็งแรงให้กับกระจกรถได้ ทำให้เมื่อเกิดอุบัติเหตุ มีของตกใส่รถ หรือมีคนพยายามทุบกระจก กระจกจะไม่แตกโดยง่าย
ซึ่งทั้งสองตัวอย่างที่ยกมานี้อาจทำให้บริษัทประกันลดราคาเบี้ยประกันรถยนต์ของเราก็เป็นได้

🔴กรณีเกิดอุบัติเหตุจะคุ้มครองเหมือนรถปกติหรือไม่❓
👉คุ้มครองตามที่ระบุในกรมธรรม์ตามปกติ ซึ่งจะคุ้มครองเฉพาะชิ้นส่วนหรืออุปกรณ์ตกแต่งรถที่ระบุไว้ในกรมธรรม์เท่านั้นครับ เพราะตอนที่เราทำประกันจะมีการตรวจสภาพรถยนต์บันทึกไว้เป็นหลักฐาน หากเรามีการตบแต่งเพิ่มภายหลังแล้วไม่แจ้งประกัน ประกันจะไม่คุ้มครองครับ เพราะอยู่นอกเหนือจากกรมธรรม์หรือเรียกง่ายๆ ว่า ประกันไม่รับรู้ นั้นเองครับ
🔰หากเรามีการแต่งรถเพิ่มเติมหลังจากทำประกัน และส่วนที่เพิ่มเติมมาไม่ได้ระบุความคุ้มครองในกรมธรรม์(หรือประกันไม่รับรู้) แนะนำว่าให้รีบแจ้งไปยังบริษัทประกันให้เร็วที่สุด เพื่อที่ทางบริษัทจะส่งเจ้าหน้าที่มาประเมินราคาและเพิ่มความคุ้มครอง แต่เราก็อาจจะต้องเพิ่มทุน ประกันภัยรถยนต์ด้วย
*เอกสารสำคัญเพื่อยื่นคือใบเสร็จรับเงิน​แบบมี​ VAT​ เพื่อที่บริษัท​ประกันจะได้สามารถพิจารณา​วงเงินคุ้มครองในอุปกรณ์​ชิ้นนั้นๆได้แต่อย่าคาดหวังนะครับว่สจะได้เต็ม​ 100% ของมูลค่าเต็ม

🔴ข้อดี-ข้อเสีย ของการมีประกันภัยรถยนต์คุ้มครองรถแต่ง
✅ข้อดี
หากเกิดอุบัติเหตุขึ้น มีความคุ้มครองในส่วนนี้ทำให้เราได้รับการดูแลค่าเสียหายทรัพย์สินให้คู่กรณี(หากมี)และค่ารักษาพยาบาลจากบริษัทประกัน (กรณีแจ้งรายละเอียดของการแต่งครบถ้วน)
ไม่ต้องเสียเงินค่าซ่อมรถและค่ารักษาพยาบาลเอง ถ้าอยู่ในเงื่อนไขกรมธรรม์ ทำให้เราประหยัดเงินในส่วนนี้ไปได้ (กรณีแจ้งรายละเอียดของการแต่งครบถ้วน)
ทำประกันภัยรถยนต์ชั้นไหนก็ได้ความคุ้มครองส่วนนี้ไปด้วยเลย (กรณีแจ้งรายละเอียดของการแต่งครบถ้วน)
❌ข้อเสีย
หากมีการแต่งรถเพิ่มหลังจากทำประกันแล้วไม่ได้แจ้งรายละเอียดของการแต่งให้ครบถ้วน ส่วนที่ไม่ระบุในกรมธรรม์จะไม่ได้รับความคุ้มครอง
กรณีแต่งเพิ่มหลังจากทำประกัน แล้วแจ้งเพิ่มความคุ้มครอง เราอาจต้องเสียเบี้ยประกันเพิ่มขึ้น
📌สรุป🔰
หากเราชอบแต่งรถก็ควรที่จะแจ้งประกันให้ทราบรายละเอียดสิ่งที่เราแต่งมาให้ครบ เพื่อที่จะได้ความคุ้มครองอย่างครบถ้วน อาจจะต้องเสียเบี้ยเพิ่มอีกหน่อยแต่รับรองว่า ไม่ต้องเสียใจตอนเกิดอุบัติเหตุอย่างแน่นอน
หากเพื่อนๆสมาชิก ต้องการหาข้อมูลหรือเปรียบเทียบประกันรถยนต์ ในส่วนรายละเอียดอื่นๆ สามารถลองใช้บริการที่​ ถูกดีประกันภัย-ประกันรถยนต์ พรบ. มากกว่า 35 บริษัท ประกันอัคคีภัย และอื่นๆ ได้ครับ
________________________
รับคำปรึกษาเพิ่มเติม คลิกเลย

🔴มีประกันซ่อมศูนย์​ แต่ก็ไม่ได้เข้าได้ทุกศูนย์ซ่อม❗

🔴ประกันชั้น 1 ซ่อมไม่ได้ทุกศูนย์จริงหรอ?
หลายคนคงไม่เข้าใจว่าทำม้ายยยย!! ทำไม!? อยากเอารถเข้าซ่อมศูนย์นี้ แต่บริษัทประกันกลับบอกว่าเอาเข้าไม่ได้ ทั้งๆ ที่ก็เป็นศูนย์ห้างที่มีชื่อเสียง น่าเชื่อถือ แต่ทำไมละถึงเอาเข้าซ่อมไม่ได้ ขัดใจนัก ต้องไปถาม​ ถูกดีประกันภัย-ประกันรถยนต์ พรบ. มากกว่า 35 บริษัท ประกันอัคคีภัย และอื่นๆ ซะละ 

👉อาจเป็นไปได้ว่า ศูนย์ซ่อมดังกล่าวไม่ได้ตกลงประสานงานกับบริษัทประกันภัยนั้นๆ อาจจะด้วยเรื่องของข้อตกลงค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็น ราคา ค่าแรง ค่าอะไหล่ เวลางานที่ต้องทำให้เสร็จ การสำรองจ่ายก่อนของลูกค้า ฯลฯ แต่โดยปกติแล้วบริษัทประกันภัยจะประสานงานกับศูนย์ซ่อมทุกยี่ห้อแต่อาจจะไม่ทั่วประเทศไทย เนื่องด้วยเงื่อนไขต่างๆ

✳️ทั้งนี้ทั้งนั้น หากต้องการนำรถเข้าศูนย์ซ่อมที่ไม่ได้อยู่ในเครือของบริษัทก็สามารถทำได้ค่ะ ก่อนซ่อมเราต้องแจ้งศูนย์ซ่อมก่อน แล้วทางศูนย์ซ่อมจะให้เราแจ้งบริษัทประกันที่เราทำไว้ เพื่อคุยและตกลงเรื่องค่าใช้จ่ายก่อน ซึ่งถ้าได้รับการอนุมัติจากบริษัทประกัน เราจะต้องสำรองออกค่าใช้จ่ายไปก่อน และทำเรื่องเบิกกับบริษัทประกันภายหลัง ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลานาน ซึ่งถ้าเราไม่สะดวกก็สามารถย้ายศูนย์ซ่อมที่อยู่ในเครือของบริษัทได้

📝ในกรณีดังกล่าว ผมขอแนะนำว่า ก่อนทำประกันควรจะดูรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นซ่อมศูนย์หรือซ่อมอู่ ควรตรวจสอบว่าในบริเวณที่เราอาศัยอยู่มีอู่ของทางบริษัทที่ไหนบ้าง และถามพนักงานขายให้ชัดเจนว่าสามารถซ่อมได้หรือไม่ เพื่อป้องกันเหตุการณ์ดังกล่าวนะครับ หากสนใจประกันดี ๆ นึกถึง​ ถูกดีประกันภัย ทักผมมาได้เลยครับพร้อมให้คำปรึกษา ตรวจสอบ​ วิธีการขายผมอาจจะละเอียดหน่อยแต่หมดกังวลหลังการขายดูแลกันตลอดสัญญา
​🔴รับคำปรึกษาเพิ่มเติม คลิกเลย

🔴ประกันรถออนไลน์​ ซื้อง่าย​ แต่เจ็บ⚠️

🔴ว่างๆยามฝนตกพรำ🌧️
 ลองเข้าไปคลิกดูเบี้ยประกันออนไลน์​เจ้านึงที่ทุ่มโฆษณา​เหลือเกิ๊น​ว่าตนถูกปรับแต่งเบี้ยได้เอง

📝 ทดสอบโดยใช้ข้อมูลรถ​ CITY​ รุ่น​ S+ ปี​ 2020
ผลที่ระบบสรุปได้เบี้ยประกันชั้น1มาที่​ 10,964 บาท
สุด​ WOW​ ตัสม๊ากพ่อ🎉
⛔คราวนี้มาวิเคราะห์​กันว่าได้อะไรมา
     👉 ทุนประกัน​รถ 500,000​ บาท​
     👉 มีค่าเสียหาย​ส่วนแรก​ 3,000​ บาท
      ( ต้องคลิกเข้าไปถึงสามขั้นตอนถึงจะเห็น)
     👉 ระบุผู้ขับขี่อีกต่างหาก
      ( โดยนำข้อมูล​เราตอนที่ใส่ในระบบครั้งแรก)​
     👉 ซ่อมอู่นะจ๊ะ​

📝 คราวนี้มาปรับแต่งกันตามคำโฆษณา
🤔 เอาทุกอย่างออกให้หมดให้เป็น​ ประกันชั้น​ 1​ ซ่อมศูนย์ แบบปกติเหมือนกับที่อื่นเค้า​ Ohhhhh❗..
เบี้ยขึ้นไปเรื่อยๆ​จบที่​ 30,649 บาท​🤣 แพงกว่าบริษัท​เกรด​ A ชั้นนำในท้องตลาดทั่วไปสะอีก

✳️แล้วแบบนี้หากมือใหม่ที่ยังไม่มีพื้นฐานจะหลงผิดในข้อ​เท็จจริง​ในสาระสำคัญ​ที่ผู้เอาประกันภัย​ควรทราบหรือไม่​ ปัญหา​ที่มักจะพบคือตอนเคลมเข้าที่นั้นไม่ได้ที่นี่ไม่ได้เพราะไม่ใช่​ศูนย์​/อู่ในเครือประกัน​ จะเคลมแบบไม่มีคู่กรณี​ก็เสียเงินเพิ่มอีก​ แย่กว่านั้นเกิดเหตุบางทีเคลมไม่ได้เพราะทำปนะกันแบบระบุผู้ขับขี่โดยไม่ทราบ​ และเหตุที่เกิดเป็นบุคคล​อื่นขับก็ช้ำใจมีเยอะ​ ส่วนคนที่ไม่เคยเคลมก็จะบอกว่าโอ้วสุดยอดราคาถูกซื้อง่ายบอกปากต่อปากไปกขายเป็นช่วยแนะนำให้คนอื่นหลงผิดตามในสาระสำคัญที่ตนก็ไม่ได้ทราบนั้นเอง #ประกันภัยรถยนต์ต้องมีคนดูแล

✅การทำประกันรถที่ดีที่สุด​ คือการทำให้ตัวเราเข้าใจให้มากที่สุดในด้านประกันภัย🙏
#เคลมประกัน​ #ประกันชั้น1​ #ประกันรถออน์ไลน์

*เนื้อหาในบทความด้านบนมิได้มีเจตนาลดความน่าเชื่อถือของการขายประกันออนไลน์​เจ้าไหนแต่อย่างใด​ เพียงแต่มุ่งเน้นให้ผู้เอาประกันภัย​ได้พิจารณา​ความในข้อเท็จจริง​ของเงื่อนไขความคุ้มครองอย่างรอบด้านเพื่อประโยชน์​แก่ตัวผู้เอาประกันภัย​เองตามบทจรรยาบรรณ​ที่ระบุใว้ต่อนายหน้า​/ตัวแทน
⭕รับคำปรึกษาเพิ่มเติม คลิกเลย

🔴ประกันชั้น1​ ระหว่างรอตรวจรถคุ้มครองแบบไหน❓

🔴รู้ใว้ก่อน​ ก่อนเสียรู้⚠️

✳️ซื้อประกันชั้น​ 1​ ใว้​ ระหว่างรอตรวจรถจะคุ้มครองเราแบบไหน​ ❓

👉ในหัวข้อนี้ข้อพูดถึงในมุมของคนที่ประกันจะหมดแบบกระชั้นชิดหรือประกันขาดความคุ้มครองไปแล้วนะครับว่ามีประเด็นอะไรให้พิจารณา​ควรระวังใว้

📝โดยทั่วไปการซื้อประกัน​รถยนต์​ประเภท​ 1​ จะมีการตรวจสภาพรถก่อนรับทำประกันเสมอ​ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายเองเข้าระบ​บ​ (ประเด็นถ่ายเองนี้ก็มีเรื่องพูดต่อใว้คราวหน้านะครับ)​ หรือมีการนัดจากเจ้าหน้าที่​มาถ่ายให้​ ซึ่งระหว่างการนัดรอถ่ายรูปเพื่อตรวจรับประกันภัยนี่แระครับมีข้อสงสัยอยู่ว่าบริษัท​ประกันภัย​จะรับประกันภัยแบบไหน❓
👉 ระเบียบปฏิบัติ​ทั่วไป​ ระหว่างตรวจรถรับประกันภัยบริษัทประกันภัย​จะคุ้มครองให้เราแบบประเภทสาม​และเคลมสดเท่านั้น​
⛔ปัญหาคือ​มีนายหน้า/ตัวแทน​ ผู้เสนอขายหลายท่านเคลมว่าคุ้มครองให้ทันทีนั้นข้อเท็จจริง​เป็นอย่างไร​ ❓ซึ่งผมเห็นด้วยนะครับที่บริษัท​ประกันภัย​ต้อง​รับผิดชอบ​ตามสัญญา​หากผู้เอา​ประกันภัย​ได้ชำระเงินเสร็จสิ้นครบถ้วน​ไม่ว่าจะช่องทางโบรกเกอร์​หรือเข้าบริษัท​ประกันภัย​โดยตรง​ ถือว่ามีการตกลงรับประกันภัยแล้ว​ แต่ด้วยข้อกำหนดที่นำมาอ้างอิงดังกล่าวรู้สึกขัดแย้ง​ โดยถ้าเกิดเหตุขึ้นมาระหว่างช่วงรอนัดตรวจรถจะได้รับความคุ้มครองแค่ชั้น​ 3​ เท่านั้น
✳️👉เพราะฉะนั้น​ใครที่ประกันขาดหรือใกล้จะหมดกระชั้นชิดทุกครั้งควรวางแผนทำประกันภัยของท่านให้ดี ขอคำยืนยันแบบเป็นลายลักษณ์อักษร​ด้วยทุกครั้งนะครับว่าเค้าจะรับผิดอย่างไรหากเกิดเหตุ​ เพราะผู้เขียนทราบมาว่ามีการนำเสนอที่แตกต่างกันมากบ้างว่ารับผิดชอบชั้น​ 1​ ให้ทันที​ บ้างว่ารับผิดชอบ​แบบ2+🤔
​ 👉บางที่นโยบายแต่ละบริษัท​ไม่เหมือนกัน​ หรือ​ นายหน้า​/ตัวแทน​ ทราบข้อข้อเท็จจริง​นี้ไม่เหมือนกัน​ หรือรู้แต่ไม่ใส่ใจผู้เอาประกันภัย​❓
#ประกันภัยรถยนต์ต้องมีคนดูแล
#ประกันชั้น1​ #ประกันรถออน์ไลน์​ #ตรวจรถรับทำประกัน
⭕รับคำปรึกษาเพิ่มเติม คลิกเลย

🔴ประกันชั้น​ 1​ ระบุผู้ขับขี่​ แต่คนอื่นขับก็เคลมได้นะ❗

🔴ทำประกันแบบระบุผู้ขับขี่ใว้​ แต่คนอื่นเอารถเราขับไปแล้วเกิดเหตุ​  ประกันจะคุ้มครองไหม❓

👉หลายคนยังหลงผิดอยู่ว่าหากเกิดกรณี​แบบนี้ประกันต้องไม่คุ้มครองแน่นอน​ เกิดเหตุจึงใช้วิธีเปลี่ยนผู้ขับขี่แล้วแจ้งเคลม​ ผู้เขียนไม่แนะนำนะครับเพราะมีความผิดฉ้อฉลประกันภัย

📝 แล้วเกิดเหตุลักษณะ​นี้ประกันจะคุ้มครองไหม​ คำตอบคือประกันยังคุ้มครองนะครับ​ แต่มีเงื่อนไข​ เรามาดูรายละเอียด​กันครับ👇

✳️สำหรับการทำประกันภัยชั้น 1 แบบระบุชื่อผู้ขับขี่ ก็เป็นประกันอีกประเภทหนึ่งที่หลายๆคนนิยมกันเนื่องจากราคาถูกและได้ส่วนลดค่าเบี้ยประกันลงจากเดิม  5- 20 % ตามช่วงอายุของผู้ขับขี่ แต่คุณจะต้องแน่ใจจริงๆ ว่าผู้ที่ใช้รถคันดังกล่าวคือผู้ที่ระบุชื่อไว้ในกรมธรรม์สูงสุดไม่เกิน 2 คน  เพราะหากเกิดอุบัติเหตุผู้ขับขี่มิใช่บุคคลที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ และเป็นฝ่ายผิด(รวมทั้งไม่สามารถแจ้งให้ทราบถึงคู่กรณีได้) ผู้เอาประกันจะต้องรับผิดชอบค่าเสียหายส่วนแรก  6,000 บาท/ความเสียหายตัวรถ  และอีก 2,000 บาท/ทรัพย์สินบุคคลภายนอก  แต่หากเป็นฝ่ายถูกผู้เอาประกันจะได้รับความคุ้มครอง และเคลมได้ปกติ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ 

 👉ส่วนประกันชั้น 1 แบบไม่ระบุชื่อผู้ขับขี่ นั้นเป็นประกันภัยที่จะคุ้มครองค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวรถของคุณ โดยที่ไม่ได้สนใจว่าใครจะเป็นคนขับ หรือใครก็สามารถขับรถคันนี้ได้ที่ได้รับการยิมยอมจากเจ้าของรถแล้ว หากเกิดอุบัติเหตุเกิดขึ้นประกันภัยรถยนต์ก็จะคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด แต่ข้อเสียก็คือ จะไม่สามารถลดค่าเบี้ยประกันเหมือนการทำประกันแบบระบุชื่อผู้ขับขี่นั่นเอง​ #ประกันภัยรถยนต์ต้องมีคนดูแล​ #ประกันชั้น1​ #ประกันรถออนไลน์​ #ถูกดีประกันภัย
รับคำปรึกษาเพิ่มเติม คลิกเลย

🔴รถชนจักรยาน​ ประกัน​จ่ายไหม❓

🔴หากท่านใดที่มีประกันรถ แต่ไม่เคยเกิดเหตุไปชนรถจักรยาน ไม่ต้องกังวลหรือตกใจ

👉เพราะไม่ว่าจะเป็นประกันชั้นไหน ตั้งแต่ 3ธรรมดา ไปจนถึงชั้น 1 หากเป็นฝ่ายผิด ไปชนรถจักรยาน ประกันจะคุ้มครองคู่กรณีให้
คือจ่ายค่าเสียหายทรัพย์สินคนอื่น + รวมถึงชีวิตคู่กรณีด้วย

❗❗ ในส่วนรถของเราเอง หากได้รับความเสียหายประกันชั้น​ 1​ เท่านั้นที่จะคุ้มครอง​ในส่วนนี้
หากเป็นชั้น​ 2+ หรือ​ 3+ ไม่คุ้มครองนะครับ

👉เพราะ 2+ และ 3+ จะคุ้มครองกรณีการชนที่เป็นยานพาหนะทางบกเท่านั้น​ หรือจำง่ายๆคือ​ รถชนรถเท่านั้น

✳️นั่นก็คือ รถที่ขับเคลื่อนด้วย กำลังไฟไฟ้า หรือน้ำมัน เช่น รถจักรยานยนต์เป็นต้น นั่นเองครับ

อย่างไรก็ตาม หากเกิดเหตุการณ์ชนรถจักยานบาดเจ็บ ค่าเสียหายดังกล่าว
จะไม่รวมถึงค่าทำขวัญ เพราะค่าทำขวัญ หากคู่กรณีเรียกร้อง ผู้ขับขี่ต้องเป็นผู้ออกเองจ่ายเอง (ไม่เกี่ยวกับประกัน) หรือที่เรียกกันว่า ค่า มนุษยธรรม
#ประกันภัยรถยนต์ต้องมีคนดูแล​ #ประกันชั้น1​ #เคลมประกัน​ #ประกันออนไลน์
มองหาข้อเสนอดีดีประกันรถทักได้เลย​ครับมีคนดูแลตลอดสัญญา​ ถูกดีประกันภัย-ประกันรถยนต์ ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ มากกว่า 40 บริษัท

🔴ยางอะไหล่หาย​ เคลมประกันได้ไหม❓

🔴สำหรับรถยนต์ ที่ยางอะไหล่อยู่ด้านนอกรถ ใต้รถ บางทีไม่ได้สังเกตุตั้งนานมารู้ตัวอีกทียางอะไหล่ก็หายไปแล้วว ?
หากรถของคุณ ทำประกันไว้ ก็ยังพอยิ้มได้นะครับ? เพราะเราสามารถเคลมประกันได้ครับผมจะช่วยพิสูจน์​อีกทางนึง

สำหรับผู้ที่ทำประกันรถยนต์ที่มีการคุ้มครองรถยนต์สูญหายไฟไหม้เท่านั้น…

✳️นั่นก็คือ ชั้น 1 และชั้น 2 กับชั้น2+ นั่นเอง !!! แต่การเคลม จะไม่ได้เต็ม100% เพราะในส่วนของยางจะถูกคิดค่าเสื่อมสภาพ คือประกันจะจ่ายค่ายางให้เพียง50% -หักค่าเสื่อมสภาพ​ แต่ถ้าหากพิสูจน์​ได้ว่ายางอะไหล่และแม๊กที่เราใช้เป็นยางอะไหล่เป็นของใหม่ชดเชยตามจริงโดยต้องมีเอกสารชัดเจน​ ผู้เขียนแนะนำถ้าตอนรับประกันแจ้งให้เจ้าหน้าที่ถ่ายรูปใว้และแสดงเอกสารซื้อขายให้ทราบ

ข้อตกลงการคุ้มครองในหมวดสูญหายไฟไหม้ บริษัทจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เมื่อรถยนต์ หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของรถยนต์ รวมทั้งอุปกรณ์ เครื่องตกแต่งหรือสิ่งที่ติดประจำอยู่กับตัวรถยนต์ตามมาตรฐานที่ติดตั้งมากับรถยนต์โดย โรงงานประกอบรถยนต์หรือศูนย์จำหน่ายรถยนต์และให้รวมถึงอุปกรณ์เครื่องตกแต่งที่ได้ทำเพิ่มขึ้นและผู้เอาประกันภัยได้แจ้งให้บริษัทททราบ ด้วยแล้ว สูญหายไป อันเกิดจากการกระทำความผิดเฉพาะฐานลักทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ ยักยอกทรัพย์ หรือเกิดความเสียหายต่อรถยนต์อันเกิดจากการกระทำความผิด หรือการพยายามกระทำความผิดเช่นว่านั้นรถยนต์ไฟไหม้บริษัทจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เมื่อรถยนต์เกิดความเสียหายจากไฟไหม้ ไม่ว่าจะเป็นการไหม้โดยตัวของมันเอง หรือเป็นการไหม้ที่เป็นผลสืบเนื่องจากสาเหตุใดๆก็ตามถึงจะเกิดความเสียหายบางส่วนก็ยังได้รับการชดเชยครับ แต่ต้องไม่เกินจำนวนทุนประกันที่ทำไว้

✳️โดยสรุปไม่ว่าอะไหล่อะไรของรถจะหายไปเราเคลมประกันได้หมดครับ จะโดนถอดยางไปขาย หรือกระจกข้าง โคลมไฟ เพราะถือเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของรถนั่นนเองครับ
#ประกันภัยรถยนต์ต้องมีคนดูแล​ ประกันรถตอนซื้อไม่สำคัญเท่าตอนเคลม​ เปลี่ยนนิสัยเลือกประกันรถจากเบี้ยถูกๆแล้วหันมามองประกันรถที่ได้รับความคุ้มครองดีดีบริษัท​ดีดีกันนะครับ​ ปัญหา​ตามมาจะน้อยลง​ และมีที่ปรึกษา​ใว้เพื่อดูแลท่านดีกว่า​ หากเกิดเรื่องจะได้ไม่ต้องลงโพสต์​ถามแล้วได้ความจริงหรือเท็จก็ไม่ทราบ​ และสุดท้ายก็ต้องเดินเรื่องเอง
รับคำปรึกษาเพิ่มเติม คลิกเลย
#เคลมประกัน​ #ประกันชั้น1​ #ประกันออนไลน์

🔴เติมน้ำมันรถผิด​ เคลมได้ไหม❓

🔴เติมน้ำมันรถผิดประเภทประกันคุ้มครองไหม❓

⭕หากเกิดกรณีเช่นนี้เมื่อรู้ตัวก่อนสิ่งที่ควรทำคือ
1️⃣❌อย่าสตาร์ทเครื่องยนต์ เพราะน้ำมันตัวที่เราเติมผิดจะเข้าไปในระบบการขับเคลื่อนทำให้เครื่องยนต์มีปัญหามากยิ่งขึ้น
2️⃣ติดต่อปั๊ม เพื่อให้ทางปั๊มเข้ามาดำเนินการแก้ไข พร้อมรับผิดชอบ เนื่องจากหากเติมน้ำมันผิดประเภทแล้ว รถยนต์จะเกิดอาการเครื่องสั่น หรือ เครื่องดับ โดยระยะทางไม่น่าเกินรัศมี 5 กิโลเมตรอย่างแน่นอน ดังนั้นควรติดต่อปั๊มให้เร็วที่สุด
3️⃣เปลี่ยนเชื้อเพลิงพร้อมไล่ระบบน้ำมันใหม่ทั้งหมด
ให้ทางปั๊มออกหนังสือว่าได้ทำการเติมน้ำมันผิดพลาดให้เราจริง เพื่อเป็นหลักฐาน
หากมีค่าเสียหายอื่นๆเพิ่มเติมมาจากการเติมน้ำมัน
🔴เติมน้ำมันรถผิดประเภท ประกันรถยนต์คุ้มครองไหม?

🔰หากเป็นในส่วนของ ประกันชั้น 1 ของหมวดหมู่ ความคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์ ซึ่งให้ความคุ้มครองในกรณีการเติมน้ำมันผิดประเภทแต่ต้องมีหลักฐานว่าได้มีการเติมน้ำมันผิดประเภทจริง
จาก​ทางปั๊มเราสามารถแจ้งเคลมประกันได้ปกติ หากเรายังไม่ได้แจ้งไปทางปั๊มก็ให้เคลมประกันซึ่งบริษัทประกันจะจ่ายในส่วนของค่าเสียหาย และจัดการแจ้งซ่อมให้รถยนต์ของเรา จากนั้นบริษัทประกันจะไปดำเนินเรื่องต่อกับทางปั๊มที่เราไปเติมน้ำมันเอง

ถึงแม้จะเคลมประกันได้ แต่เราก็ควรจะระวังเอาไว้ ควรแจ้งกับพนักงานเติมน้ำมันให้ชัดเจนเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาการเติมน้ำมันผิดชนิดจนส่งผลเสียต่อรถยนต์ของเราได้ และช่วงระหว่างที่เติมก็สังเกตตรงหัวจ่ายสักนิดว่าพนักงานหยิบมาถูกหัวจ่ายหรือถูกสายหรือไม่จะได้ไม่มีปัญหาในภายหลัง

ใช้รถอย่างสบายใจมีคนดูแลรอบด้านให้เรา ถูกดีประกันภัย-ประกันรถยนต์ พรบ. มากกว่า 35 บริษัท ประกันอัคคีภัย และอื่นๆ เป็นที่ปรึกษา​ของท่าน

🔴การใช้สิทธิ​ค่าขาดประโยชน์​จากการใช้รถ

🔴ในวงการประกันภัยนั้น ยังมีความรู้อีกมากมายที่ให้ผู้เอาประกันภัยได้ค้นคว้าและสามารถใช้สิทธิของตนเองได้อย่างถูกต้องครบถ้วน โดยความรู้ในวันนี้ เราขอเสนอ ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อมนั่นเอง ซึ่งหากเราเป็นฝ่ายถูก บริษัทประกันภัยของคู่กรณีจะเป็นผู้ชดใช้ค่าเสียหายในส่วนนี้ให้กับเรา แต่หากเราเป็นฝ่ายผิด บริษัทประกันภัยของเราก็จะไม่จ่ายค่าชดเชยในส่วนนี้ให้กับเรานะครับ

จะว่าไปเรื่องการชดเชยนั้นย่อมเป็นสิ่งที่ผู้เอาประกันพึงจะได้รับ แต่หากเราไม่รู้แล้ว ก็อาจจะไม่ได้ยื่นเอกสารเรียกร้องค่าเสียหายในส่วนนี้ หากเมื่อเกิดอุบัติเหตุและเราเป็นฝ่ายถูก เราสามารถเรียกร้องให้บริษัทประกันภัยของคู่กรณีชดใช้ค่าเสียหายอันเกิดจากการขาดประโยชน์จากการใช้รถได้ตามจริง ทั้งนี้

1. สำหรับรถยนต์ไม่เกิน 7 ที่นั่ง ให้บริษัทจ่ายในอัตราไม่น้อยกว่าวันละ 500 บาท 
2. สำหรับรถยนต์รับจ้างสาธารณะไม่เกิน 7 ที่นั่ง ให้บริษัทจ่ายในอัตราไม่น้อยกว่าวันละ 700 บาท 
3. สำหรับรถยนต์ที่มีขนาดเกินกว่า 7 ที่นั่งหรือรถยนต์บรรทุกผู้โดยสารรวมทั้งผู้ขับขี่เกิน 7 ที่นั่ง ให้บริษัทจ่ายในอัตราไม่น้อยกว่าวันละ 1,000 บาท

จากความรู้ข้างต้นจะเห็นได้ว่า ค่าขาดประโยชน์นั้นไม่ใช่เงินจำนวนน้อย ๆ เลยใช่ไหมครับที่บริษัทประกันภัยต้องจ่าย ซึ่งหากบริษัทฝ่าฝืน ก็อาจมีโทษปรับไม่เกิน 5 แสนบาท และปรับต่อไปเรื่อย ๆ อีกไม่เกินวันละ 2 หมื่นบาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่

เห็นอย่างนี้แล้ว เราก็มีตัวอย่างเอกสารที่ใช้ในการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์กับทางบริษัทประกันภัยมาให้ด้วยนะครับ เมื่อรู้และต้องนำรถเข้าซ่อม อย่าลืมใช้สิทธิอันเป็นประโยชน์ของผู้เอาประกันภัยกันด้วยนะครับ

⭕แล้วอย่าลืมแนบเอกสารหลักฐาน​เพิ่มเติมเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเนื่องจากการขาดประโยชน์​จากการใช้รถด้วยนะครับ​ อาทิเช่น​ ใบเสร็จ​ค่าเช่ารถ​
หากเราเรียกไปลอยๆปากเปล่าคงจะต้องโต้เถียงกันเยอะอยู่​
⭕ระเบียบกำหนดใว้คือ"ไม่น้อยกว่า" หากเราเป็นรถประเภทไม่เกิน​ 7​ ที่นั่ง​ และต้องเช่ารถเกินวันละ​ 500​ เราก็สามารถนำใบเสร็จ​นั่นมายื่นร้องขอได้ตามจริงในใบเสร็จ​ (แต่บริษัท​ประกันอาจจะประวิงการจ่ายหรือจะไม่จ่ายเราครบ​ อันนี้หากต้องการให้เป็นไปตามที่เราร้องขอก็ต้องฟ้องกันต่อนะครับ)
⭕ตรวจสอบงานบริการด้านประกันภัยได้ที่นี่จบครบทุกบริการแอดเลย​👉 คลิกเลย

✳️หรือแอดไลน​์ส่วนตัวปรึกษา​ผมได้โดยตรงที่ 👉 line.me/ti/p/~attaon

รถเสียหายโดยสิ้นเชิง​ คืนทุน​ และโอนซากแบบไหน❓

🔴รถเสียหายสิ้นเชิง การคืนทุนประกันคืออะไร ต้องโอนรถหรือไม่ต้องโอน ❓

ก่อนอื่นเลยต้องตีตามความรถยนต์ที่เสียหายหนักเป็นรถยนต์ที่เสียหายโดยสิ้นเชิงเสียก่อนนะครับตามคู่มือตีความด้านประกันภัย​ เพราะหลายท่านอาจจะรักรถมากพอเกิดเหตุชนนิดหน่อยก็บอกเสียหายหนักสะแล้วเพราะกลัวว่าพอซ่อมจะกลับมาใช้ไม่เหมือนเดิม​ ไม่หล่อเท่าเดิม​ รถมีตำหนิ​ ก็ไปตีความจากความเห็นส่วนตัวกัน

รถยนต์เสียหายสิ้นเชิง คืออะไร❓
👉รถยนต์เสียหายสิ้นเชิง หมายถึง รถคันเอาประกันเสียหายจนไม่อาจซ่อมให้กลับสภาพเดิมได้ หรือ หากจะซ่อมให้กลับสภาพเดิม ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมไม่น้อยกว่า 70% ของมูลค่ารถยนต์ขณะเกิดความเสียหาย

✅ดังนั้นในกรณีประกันชั้น 1 หากรถยนต์เสียหายสิ้นเชิงแล้ว บริษัทประกันต้องจ่ายสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกันภัยเต็มจำนวน (มักเรียกกันสั้นๆ ว่าคืนทุนประกัน) เปลี่ยนรถยนต์ หรือชดใช้เป็นเงินก็ได้ แต่หากตกลงกันไม่ได้ว่าจะซ่อมหรือคืนทุนประกัน ให้ดำเนินการจัดซ่อมโดยอู่กลางประกันภัย กรณีจัดซ่อมโดยอู่กลางแล้วเกิดความบกพร่อง หรือเสียหายเพิ่มขึ้น หรือซ่อมล่าช้า ประกันไม่ต้องรับผิดชอบความเสียหายดังกล่าว เว้นแต่อู่กลางนั้นเป็นอู่คู่สัญญาของประกันด้วย

อย่างไรก็ตาม อะไหล่ที่ใช้ซ่อม หากหาไม่ได้ในท้องตลาด ให้นำเข้าจากต่างประเทศ ประกันรับผิดชอบไม่เกินราคานำเข้าที่ส่งมาทางเรือเท่านั้น

✅หากในกรมธรรม์มีการระบุชื่อผู้รับประโยชน์เอาไว้ เช่น ให้บริษัทไฟแนนซ์เป็นผู้รับประโยชน์ (ในกรณีที่รถยังผ่อนอยู่) เป็นต้น บริษัทประกันจะจ่ายให้แก่ผู้รับประโยชน์ก่อนตามส่วนได้ส่วนเสีย เมื่อจ่ายสินไหมแล้ว ให้ถือว่าความคุ้มครองสิ้นสุด 

🔴คืนทุนประกันแล้ว ต้องโอนรถหรือไม่
มักเป็นคำถามที่ตามมาหลังรถเสียหายสิ้นเชิง ต้องโอนซากหรือไม่ต้องโอน การจะโอนหรือไม่โอนดูที่ตัวเลขอีกตัวคือ 80% โดยย้อนไปดูว่าขณะที่ทำประกัน ได้ทำประกันรถไว้ไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่ารถในขณะที่เอาประกันหรือไม่ ถ้าใช่แล้วเสียหายสิ้นเชิง ได้สินไหมแล้ว ผู้เอาประกันจะต้องโอนรถยนต์ให้บริษัทด้วย โดยบริษัทจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการโอนทั้งหมด
 
✅เช่น รถซื้อมา 1 ล้านบาท ทำประกันทันที ได้ทุนประกัน 8 แสนบาทถือว่าทำประกัน 80% ของมูลค่ารถแล้ว หากต่อมาในปีประกันนั้น รถคันนี้เกิดความเสียหายสิ้นเชิง เมื่อประกันจ่ายสินไหมแล้ว ต้องโอนรถด้วย​ 

คำถามที่อาจมีตามมา
คือ หากไม่ต้องการโอนรถให้บริษัทประกัน ต้องการเก็บรถไว้ และขอเงินสินไหมมาซ่อมรถเองได้หรือไม่ คำตอบคือ อาจจะพอเจรจาได้ แต่ทั้งนี้สินไหมที่ได้รับจะไม่ถึง 70% ของราคารถ ณ ขณะนั้น เนื่องจากถ้าถึง 70% ก็จะเข้าเงื่อนไขรถยนต์เสียหายสิ้นเชิง ต้องคืนทุนประกันและโอนรถนั้นเอง

มีประกันภัยรถดีดีครั้งหน้าควรมีที่ปรึกษา​คอยให้คำแนะนำดูแล​ ผม​ ไกรสิงห์ สวนเจริญ ยินดีครับ​ หรือติดต่อมาทางเพจ​ ถูกดีประกันภัย-ประกันรถยนต์ ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ มากกว่า 40 บริษัท 

รู้ใว่ไม่โง่❗โดนหลอกขายทุนประรถที่สูงเกินจริง❌

🔸รู้ไว้ไม่โง่ ทำทุนประกันภัยรถยนต์สูงดีหรือไม่

     หลายคนคงเคยมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทุนประกันภัยรถยนต์ เช่นว่า ทำไมถึงได้ทุนแค่นี้ ทำไมได้ทุนต่ำจัง เวลาเกิดอุบัติเหตุแล้วจะได้คุ้มกับค่าเสียหายรึเปล่า❓เลยมองหาประกันที่จะได้ทุนสูงๆใว้ก่อน
                  ❗ระวังใว้นะครับ❗

     ก่อนที่จะตอบคำถามของหัวข้อนี้เรามาทำความรู้จัก และรู้หลักการคิดทุนประกันภัยของบริษัทประกันภัยกันก่อนดีกว่า ซึ่งคนที่เคยทำประกันภัยรถยนต์คงรู้แล้วว่า ทุนประกันภัย คือ ค่าสินไหมที่บริษัทประกันภัยจะต้องจ่ายให้กับ ผู้เอาประกันภัยรถยนต์ในกรณีที่ทรัพย์สินนั้นได้รับความเสียหายโดยสิ้นเชิง หรือเกิน 70% ของความเสียหาย

     แล้วบริษัทประกันภัยมีหลักเกณฑ์อะไรในการคิดทุนประกันภัย❓

     โดยหลักส่วนใหญ่แล้ว การคิดทุนประกันภัยจะคำนวณจากราคากลางในตลาด หรือราคาซื้อสำหรับรถมือใหม่ป้ายแดง เป็นต้น โดยจะมีการหักค่าเสื่อมการใช้งานไว้อย่างน้อย 10% เป็นต้น ทำให้ ทุนประกันภัยจะอยู่ประมาณ 90% ของราคาขายในตลาดกลาง แต่สำหรับรถป้ายแดงจะได้ทุนประกันภัยเริ่มต้นที่ 80% จากราคาที่ซื้อมา เนื่องจากเมื่อทำการดาวน์รถมา 1 คัน โดยส่วนมากแล้ว เงินดาวน์ จะอยู่ที่ 20% ของราคาเต็ม ด้วยเหตุนี้ทำให้การทำประกันภัยรถยนต์ จะมีทุนประกันภัยอยู่ที่ 80% เท่านั้น ไม่อย่างนั้นแล้ว จำนวนเงินชดเชยจะเกินจากราคาขายเต็มจำนวน แต่ถ้าหากว่าได้ทำการซื้อรถด้วยเงินสดเต็มจำนวน ไม่มีการผ่อนชำระ ก็จะสามารถทำทุนประกันภัยได้สูงสุดที่ 90% ของราคาขายนั้นเอง จากนั้นในปีถัดไปของการทำประกันภัย ทุนประกันภัยจะอยู่ที่ 90% ของทุนประกันภัยในปีที่แล้ว หรืออาจจะเป็น 90% ของราคาตลาดกลางในขณะนั้น ได้ทั้ง 2 กรณี ขึ้นอยู่กับสาเหตุใด เช่น บางคนอาจจะจำทุนประกันภัยปีที่แล้วไม่ได้ หรือไม่ทราบ หรือราคารถตกอย่างรวดเร็วทำให้ไม่สามารถใช้ราคาทุนของปีที่แล้วเป็นที่ตั้งได้

    🔸 หากทำประกันภัยรถยนต์ด้วยทุนประกันภัยที่สูงกว่ามูลค่า หรือที่เรียกว่า Over Insured ซึ่งทำให้เสียเบี้ยประกันภัยสูงเกินความจำเป็น เพราะในหลักการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน จะชดเชยให้เท่ากับค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจริงเท่านั้น โดยการชดเชยจะยึดตามราคาขายจริง หรือมูลค่ากลางในตลาดปัจจุบันนั้นเอง แต่เนื่องจากธุรกิจประกันภัยที่มีการแข่งขันกันสูง ทำให้หลายบริษัทจัดโปรโมชั่นค่าเบี้ยประกันภัยถูกๆมาจูงใจลูกค้ากันอย่างเมามัน  ซึ่งทำให้บางบริษัทมีข้อเสนอให้คุณทำทุนประกันภัยที่สูงขึ้นได้ โดยเสียค่าเบี้ยประกันเท่ากับบริษัทประกันอื่นๆได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นควรศึกษา และพิจารณาความคุ้มครอง และรายละเอียดในกรมธรรม์ให้ดีก่อนตัดสินใจในการทำประกันภัยทุกครั้ง

ได้ทุนสูงมาเกินจริง​  สุดท้ายพอจะชดเชยจะมายึดราคามูลค่ากลางในตลาด​ เป็นเรื่องฟ้องร้องเป็นคดีความกันมีให้เห็นมากมายแล้ว​ เพราะฉะนั้น​เราควรรู้ให้ทันอย่าไปหลงในสิ่งล่อลวงโดยขาดการพิจารณา​หลักสำคัญ​ด้านประกันภัย​ หรือมีที่ปรึกษา​ดีดีที่มฝทำงานอย่างมืออาชีพให้เข้ามาดูแลท่านได้ครับ​ ไกรสิงห์ สวนเจริญ ยินดีครับ​ เยี่ยมชมเพจ​ ถูกดีประกันภัย-ประกันรถยนต์ ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ มากกว่า 40 บริษัท
รับคำปรึกษาเพิ่มเติม คลิกที่นี่

🔴ซื้อประกันรถอย่าดูแต่เบี้ยถูกที่สุด❗

🔴ซื้อประกันชั้น​ 1​ ได้เบี้ยถูกๆอย่าเพิ่งดีใจอาจได้ความคุ้มครองเท่า​ 2+
ด้วยคำเชื้อเชิญ​เบี้ยประกันชั้น​ 1​ เบี้ยไม่ถึงหมื่นแบบประหยัดสรรพคุณเคลมได้ทุกการชนมีโฆษณา​กันให้เห็นเยอะขึ้นทุกวัน​ เพราะการแข่งขันในเรื่องเบี้ยประกันที่ถูกๆจากผู้ที่มองหาประกันรถมีความต้องการสูงขึ้น​ จึงทำให้ผู้เสนอขายงัดวลีเด็ดต่างๆขึ้นมาเพื่อให้เกิดความสนใจ​ หากโชคดีถ้าปลายทางการซื้อขายเราทราบทุกเงื่อนไขที่ไม่คุ้มครองก็เป็นอันว่ารับทราบ​ แต่ถ้าคนที่เสนอขายเราไม่แจ้งข้อเท็จจริง​ที่ไม่คุ้มครองและเงื่อนไขต่างๆล่ะ​ คงต้องควักเงินจ่ายตามาอีกเยอะแน่นอน

🔴ชั้น​ 1​ เบี้ยไม่ถึงหมื่น​ ส่วนใหญ่มีเงื่อนไขดังนี้
✳️มีค่าเสียหาย​ส่วนแรกเริ่มต้น​ 3,000-5,000
✳️เคลมได้ไม่ต้องเสีย​ Excess​ แต่เฉพาะการชนกับยานพาหนะ​ทางบกเท่านั้น​ ( นี่ไงคือ​ 2+ ชัดๆ)​
✳️จำกัดทุนประกันรถไม่ได้เต็มตามมูลค่าจริงของรถเราที่ควรได้​ส่วนใหญ่​จะได้อยู่ที่​ 100,000​ -​400,000​ ตามรุ่นและยี้ห้อรถ​ ( นี่ไง​ ทุนรถพอกับทำ​ 2+ เลย)​ ถ้าเกิดเหตุคืนซากรถพังยับ สมมติ​รถเราราคา​ 700,00 ถ้ามีประกันตัวนี้คุ้มครองเต็มทุนที่​ 200,000​ คืนซากก็ได้แค่นั้นไง😭
✳️ส่วนใหญ​จะเป็นซ่อมอู่​ (รถใหม่เข้าซ่อมอู่​ เกิดเหตุเคลมอะไหล่เปลี่ยนก็ไม่ใช่ของแท้ใหม่เราจะเอารึ)

👉เลือกซื้อประกันหากไม่อยากช้ำใจควรอย่าตั้งเป้าหมายไปที่เบี้ยถูกที่สุด​ แต่อยากแนะนำให้พิจารณา​อย่างรอบด้านตามความเหมาะสมการใช้งานและความ​คุ้มครอง​ที่ดีที่สุด​ รวมถึงที่ปรึกษา​ดีดีใว้คอยดูแลเราซื้อกับบุคคล​ที่มีตัวตนทำงานได้อย่างอิสระเข้าชนประสานงานได้ทุกบริษัท​ประกันภัย​ เพื่อเหตุการณ์​ไม่คาดฝันวันข้างหน้า​ #ประกันภัยรถยนต์ต้องมีคนดูแล
⭕ตรวจสอบงานบริการด้านประกันภัยได้ที่นี่จบครบทุกบริการแอดเลย​👉 ปรึกษาเพิ่มเติม

✳️หรือแอดไลน​์ส่วนตัวปรึกษา​ผมได้โดยตรงที่ 👉 line.me/ti/p/~attaon

🔴คนบ้าทุบรถ​ ประกันจ่ายไหม⚠️

✳️คนบ้าทุบรถ ประกันจ่ายไหม❓

👉โบราณ​ว่าใว้​ “อย่าถือคนบ้า อย่าว่าคนเมา” 
 เมื่อเกิดเหตุมีบุคคล​สติไม่ดีมาทำให้รถเราเสียหาย
แบบนี้ประกันจะยอมจ่ายค่าซ่อมให้ไหม
เราต้องดำเนินการยังไง ต้องเสียค่า EXCESS​ รึป่าว

✅เรื่องนี้มีคำตอบครับ
ก่อนอื่นต้องมาดูในเงื่อนไขของประกันภัยครับ
ถ้าเป็นประเภท 2+ 3+ เงื่อนไขการซ่อมรถคือต้องเกิดจากการชนกับรถเท่านั้น​จึงไม่คุ้มครองในกรณีนี้

🔴ส่วนประกันภัยประเภท 1​ ในเงื่อนไขการซ่อมไม่ได้ระบุข้อยกเว้นไว้ความเสียหายที่เกิดจากคนบ้าไม่คุ้มครองฉะนั้นถ้ารถคุณทำประเภท 1 ไว้คุ้มครองแน่นอน

🔰ส่วนว่าจะเสียค่า Excess (1,000 บาท) หรือไม่
ก็ต้องมาดูเงื่อนไขของการเรียกเก็บค่า Excess
ซึ่งระบุไว้ว่า ไม่สามารถแจ้ง หรือระบุคู่กรณีได้ซึ่งถ้าหากเรามีภาพหลักฐานไม่ว่าจะเป็นกล้องหน้ารถ​ กล้องวงจรปิด​ให้เห็นถึงเหตุการณ์​ดังกล่าว​ กรณีค่า​ EXCESS​ ก็จะไม่เสียครับ​ อ่อ❗อย่าลืมลงบันทึกประจำวัน​ใว้ด้วยนะครับประกอบการแจ้งเคลมถึงแม้ว่าเป็นคนบ้าก็ตามประกันไม่สามารถเรียกเก็บค่า Excess ได้ครับ​ แต่ประกันจะสามารถเรียกค่าเสียหายจากคนบ้าหรือไม่อันนี้ก็ต้องไปดูว่าคนบ้ามี
ผู้อุปการะไหมถ้าไม่มีก็ต้องไปดูว่าเข้าเงื่อนไขของคำว่า “คนบ้า”แบบไหน
✳️ลักษณะแบบไหนที่กฎหมายถือว่า "บ้า""คนบ้า"
• ไม่รู้ผิดชอบชั่ว-ดี
• บังคับการกระทำและจิตใจตัวเองไม่ได้
• สติฟั่นเฟือน ป่วยจิต"คนบ้าบางเวลา"
• รู้ผิดชอบชั่ว-ดีอยู่บ้าง
• บังคับการกระทำและจิตใจตัวเองได้บ้าง
• สติไม่ฟั่นเฟือน
มันเป็นเรื่องของประกันครับ
💟เหตุการณ์​ไม่คาดฝันมักจะเกิดขึ้นได้เสมอ​ หลายเคสเป็นเรื่องแปลกๆและไม่ได้เกิดขึ้นจากรถด้วยกันเอง​ หากเราทำประกันชั้น1​ ใว้ก็ยังพอช่วยเหลือภาระความเสี่ยงทางการเงินของคุณได้​ สนใจให้เราแนะนำประกันภัยดีดียินดีนะครับ​ ถูกดีประกันภัย-ประกันรถยนต์ พรบ. มากกว่า 35 บริษัท ประกันอัคคีภัย และอื่นๆ 
________________________
ช่องทางรับคำปรึกษา คลิกที่นี่

#ศรีกรุงโบรคเกอร์ #724insure #รับฟรีประกันอุบัติเหตุ1แสนบาท​ #ประกันรถผ่อนได้​ #ประกันรถผ่อนเงินสด​ #ประกันชั้น1​ #ประกันออนไลน์​ #เคลมประกัน​ #ประกันถูกดี​ #ประกันภัยรถยนต์ต้องมีคนดูแล

🔴ยางแตก​ เคลมประกันได้ไหม❗


🔴ฉบับแก้ไข
คำสั่งนายทะเบียนที่ 66/2563 หน้า 100
👉ยางรถยนต์ ซึ่งถือว่าเป็นอุปกรณ์ของรถยนต์ จึงต้องได้รับความคุ้มครองตามความคุ้มครองในกรมธรรม์ประกันภัยดังกล่าว

 แต่กระนั้นความคุ้มครองในยางรถยนต์ ต้องเป็นความคุ้มครองที่เรียกว่า ”คุ้มครองอย่างมีเงื่อนไข” เพราะความเสียหายของยางรถยนต์นั้น เป็นข้อยกเว้นไม่คุ้มครองที่ถูกระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ ในหมวด ”การยกเว้นความเสียหายต่อรถยนต์ การประกันภัยนี้ไม่คุ้มครอง” ซึ่งมีอยู่ 5 ข้อด้วยกัน

 ✅1 การเสื่อมราคา หรือการสึกหรอของรถยนต์
 ✅2 การแตกหักของเครื่องจักรกลไกของรถยนต์ การเสีย หรือการหยุดเดินของ
 เครื่องจักรกลไกหรือเครื่องไฟฟ้าของรถยนต์อันมิได้เกิดจากอุบัติเหตุ
 ✅3 ความเสียหายโดยตรงของรถยนต์ อันเกิดจากการบรรทุกน้ำหนักหรือจำนวนผู้
 โดยสารเกินกว่าที่ได้รับอนุญาต อันมิได้เกิดจากอุบัติเหตุ
 ✅4 ความเสียหายต่อยางรถยนต์ อันเกิดจากการฉีกขาด หรือการระเบิด​ หรือจากสภาพการใช้งานปกติ เว้นแต่กรณีมีความเสียหายเกิดขึ้นต่อส่วนอื่นของรถยนต์ในเวลาเดียวกัน
 ✅5 ความเสียหายอันเกิดจากการขาดการใช้รถยนต์ เว้นแต่การขาดการใช้นั้นเกิดจาก
 บริษัทประวิงการซ่อมหรือซ่อมล่าช้าเกินกว่าที่ควรจะเป็น โดยไม่มีเหตุผลอัน
 สมควร
 ดังนั้นจากข้อความที่กล่าวไว้ว่า ยางรถยนต์เป็นอุปกรณ์ของรถยนต์ที่มี ”ความคุ้มครองอย่างมีเงื่อนไข” หมายถึง ยางรถยนต์เกิดการฉีกขาดหรือระเบิดจากการใช้งานปรกติ จะไม่ได้รับความคุ้มครอง แต่ถ้าการฉีกขาดหรือการระเบิดของยางเกิดจาก รถยนต์เกิดอุบัติเหตุ การกลั่นแกล้ง หรือการกระทำมุ่งร้ายจะได้รับความคุ้มครอง

 อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่คุ้มครองยางรถยนต์ด้วยเงื่อนไขดังกล่าว แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นอันเป็นผลมาจากอย่างยางระเบิด  เช่น ตัวรถยนต์ ทรัพย์สินบุคคลภายนอกยังคงต้องได้รับความคุ้มครองปรกติ

 ในทางกลับกันการเกิดอุบัติเหตุจากสาเหตุอย่างอื่น และเป็นเหตุให้ยางเกิดการระเบิดหรือฉีกขาด ยางต้องได้รับความคุ้มครอง

 แต่ความคุ้มครองที่ได้รับนั้น เป็นการชดใช้ตามสภาพเดิมของยางรถยนต์ที่เกิดความเสียหายในขณะที่เกิดอุบัติเหตุนั้นหมายถึงจะไม่ได้ชดเชยเต็ม​จำนวนนะครับ​  ปรึกษาปัญหา​ประกันภัย​รถยนต์​ได้ที่ลิงค์​นี้ได้เลยนะครับ​➡️
หรือเลือกแผนประันภัยรถยนต์​ดีดีได้ที่​ ถูกดีประกันภัย-ประกันรถยนต์ พรบ. มากกว่า 35 บริษัท ประกันอัคคีภัย และอื่นๆ  หมดกังวลเรื่องประกันภัย​รถยนต์​ให้ผมดูแลได้เลยครับ​ 

ช่องทางการติดต่อ คลิกที่นี่

🔴ประกันรถทำไมต้องมีค่า​เสีย​หายส่วนแรก❓

🔴ไขข้อข้องใจ ค่าเสียหายส่วนแรก Excess กับ Deductible ต่างกันอย่างไร หาคำตอบได้ที่บทความนี้เลยครับ!
 
ค่าเสียหายส่วนแรกแบบ Excess
ค่า Excess หมายถึง ค่าเสียหายส่วนแรกแบบ ภาคบังคับ ซึ่งจะมีระบุไว้ในเงื่อนไข โดยจะมีข้อกำหนดว่า เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ผู้ใช้รถจะต้องรับผิดชอบร่วมกับบริษัทประกันภัยเป็นค่าเสียหายส่วนแรก 1,000 บาท (แม้จะมีประกันชั้น 1 ก็ต้องจ่าย)
🔰โดยขึ้นอยู่กับกรณีดังนี้
✅อุบัติเหตุที่ไม่ได้เกิดจากการชน หรือรถพลิกคว่ำ
✅อุบัติเหตุที่ไม่สามารถระบุคู่กรณีได้

❓ทำไมถึงต้องจ่ายค่า Excess?
เชื่อว่าหลายๆ คนต้องสงสัยว่า ทั้งๆ ที่จ่ายเบี้ยประกันแล้ว ทำไมเราถึงยังต้องจ่ายค่า Excess อยู่ล่ะ
🔴 คำตอบนั้นมีอยู่ 2 ข้อด้วยกัน คือ
เพื่อป้องกันกรณีที่ผู้เอาประกันแจ้งเคลมทั้งที่ไม่ได้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นจริง อย่างเช่น อยากทำสีรถใหม่เลยใช้คัตเตอร์กรีดให้เป็นรอยแล้วแจ้งเคลมกับประกัน
เพื่อให้ผู้เอาประกันไม่เกิดความประมาทในการขับรถ ไม่ใช่ว่าจะขับแบบไหนก็ได้เพราะรู้อยู่แล้วว่าประกันจะจ่ายค่าเสียหายให้

❓ทำไมถึงต้องจ่ายค่า Excess?
 
กรณีไหนที่ต้องเสียหรือไม่เสียค่า Excess
เมื่อทราบกันแล้วว่าค่า Excess หมายถึงอะไร แต่ยังไม่เห็นภาพชัดว่ากรณีไหนบ้างที่ต้องเสียหรือไม่เสียค่าใช้จ่าย มาดูรายละเอียดของเรื่องนี้กันเลยดีกว่าครับ

🔴กรณีที่ต้องเสีย ได้แก่ กรณีที่รถของคุณเกิดความเสียหายแต่ ไม่สามารถระบุคู่กรณี​ หรือเหตุจากการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดการเคลมขึ้น​ โดยต้องระวังในการพิจารณา​ของเจ้าหน้าที่ที่เข้ามาตรวจสอบว่าจะตีความอย่างไร​ และมีเหตุน่าเชื่อถือไหม​ โดยทางที่ดีแนะนำไม่ว่าจะเกิดแผลเล็กแผลน้อยควรแจ้งเคลมสดทันทีเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา​ที่จะตามมาภายหลัง​ ❌สิ่งที่ไม่ควรทำคือการแจ้งเคลมทีเดียวรอบคัน​ 
อย่างไรก็ตาม ค่าเสียหายส่วนแรกสำหรับกรณีเหล่านี้จะเรียกเก็บครั้งละ 1,000 บาท ตามจำนวน เหตุการณ์ ไม่ใช่ต่อร่องรอยความเสียหาย ยกตัวอย่างเช่น รถของคุณถูกก้อนหินกระเด็นใส่มีรอยบุบ 3 รอย ก็จ่ายเพียง 1,000 บาท

แต่ถ้าหากรถของคุณมีรอยบุบจากหินกระเด็นใส่ และมีรอยขีดข่วนจากรั้วลวดหนามด้วย จะนับเป็นความเสียหายจาก 2 เหตุการณ์ แปลว่าคุณต้อง 1,000 บาท x 2 เหตุการณ์ เท่ากับ 2,000 บาทนั่นเอง

🔴กรณีที่ไม่ต้องเสีย ได้แก่ กรณีที่รถของคุณเกิดอุบัติเหตุ หรือความเสียหายที่สามารถ ระบุคู่กรณีได้ หรือมีภาพหลักฐานเหคุการณ์ที่ระบุได้ชัดเจน เช่น
รถชนเข้ากับพาหนะอื่นและสามารถแจ้งรายละเอียดของคู่กรณีได้
✅รถชนเข้ากับฟุตปาท กำแพง ป้ายจราจร ต้นไม้ หรือเสาไฟฟ้า
✅รถชนเข้ากับคน หรือสัตว์
✅รถพลิกคว่ำ
อย่างไรก็ตาม ประกันจะไม่คุ้มครองกรณีที่อุบัติเหตุเหล่านี้เกิดจาก เมาแล้วขับ ขับรถแข่งซิ่ง หรือใช้ในกรณีที่คุณทำผิดกฏหมายทุกกรณี เพราะฉะนั้น พยายามขับรถกันอย่างระมัดระวังและเคารพกฏหมายกันด้วย เพราะเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ประกันจะไม่จ่ายให้นะครับ
 
🔴ค่าเสียหายส่วนแรกแบบ Deductible
ค่า Deductible หมายถึง ค่าเสียหายส่วนแรกแบบ ภาคสมัครใจ ซึ่งจะค่อนข้างแตกต่างจากแบบ Excess เพราะเป็นค่าเสียหายส่วนแรกที่คุณยอมเสียให้กับบริษัทประกันทุกครั้งที่มีการเคลมในอุบัติเหตุ ที่คุณเป็นฝ่ายผิด 
 
โดยในขั้นตอนการทำประกัน จะมีเงื่อนไขให้คุณเลือกที่จะจ่ายค่า Deductible หรือไม่ ซึ่งถ้าคุณยอมจ่ายจะช่วยลดเบี้ยประกันตามจำนวนค่า Deductible ที่คุณระบุไว้

เช่น เบี้ยประกันรายปี 10,000 บาท แต่หากคุณระบุว่า ยินดีจ่ายค่า Deductible ทุกครั้งที่เกิดเหตุแล้วคุณเป็นฝ่ายผิด 2,000 บาท ซึ่งจะไปหักลบกับเบี้ยประกัน ทำให้คุณต้องจ่ายเพียง 8,000 บาทเท่านั้น

แต่ค่า Deductible นี้ไม่ได้มีทุกบริษัท หากคุณสนใจในเงื่อนไขนี้แนะนำให้สอบถามข้อมูลกันให้ดีๆ ก่อนนะครับ

🔰ค่าเสียหายส่วนแรก🔰
 
🔴จ่าย หรือ ไม่จ่าย แบบไหนคุ้มกว่ากัน?
เมื่อทราบกันแล้วว่าค่าเสียหายส่วนแรกแบบ Deductible คืออะไร ก็มาถึงคำถามที่ว่าเลือก จ่าย หรือ ไม่จ่าย แบบไหนจะคุ้มค่ากว่ากัน? ซึ่งคำตอบก็ขึ้นอยู่กับว่า คุณมีเชี่ยวชาญในการขับรถมากแค่ไหน

🔴หากคุณเป็น ผู้ชำนาญในการขับรถ และมั่นใจว่าการขับของคุณปลอดภัย ไม่ไปเฉี่ยวหรือชนเข้ากับอะไรง่ายๆ แน่นอน ก็ควรเลือกที่จะจ่ายค่า Deductible นี้ เพราะจะช่วยให้คุณประหยัดเบี้ยประกันในแต่ละปีไปได้มาก และแม้จะเกิดอุบัติเหตุ แต่ถ้าคุณไม่ได้เป็นฝ่ายผิดก็ไมต้องจ่ายอะไรเช่นเดียวกัน

แต่ถ้าหากคุณ ไม่ชำนาญในการขับรถ หรือยังเป็นมือใหม่หัดขับอยู่ และคิดว่ารถของคุณมีโอกาสที่จะชนนู่นชนนี่บ่อยครั้ง เงินติดล้อแนะนำว่าให้คุณเลือกไม่จ่ายค่า Deductible จะดีที่สุด มิฉะนั้นค่าเบี้ยประกันที่ลดลงมา อาจไม่คุ้มกับค่าเสียหายส่วนแรกที่คุณต้องจ่ายไป

🔴หากคุณกำลังมองหาที่ปรึกษา​ประกันภัยที่คอยให้คำแนะนำและหลีกเลี่ยง ค่าเสียหายส่วนแรกเหล่านี้ คุณสามารถปรึกษากับเรา ถูกดีประกันภัย-ประกันรถยนต์ พรบ. มากกว่า 35 บริษัท ประกันอัคคีภัย และอื่นๆ ได้เลยครับ เราเป็นโบรกเกอร์ที่มีประกันภัยรถยนต์ให้คุณเลือกหลากหลายรูปแบบ พร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญที่สามารถให้คำปรึกษาคุณได้อย่างตรงจุด ติดต่อขอรายละเอียดได้ลิงค์ของเรายินดีให้บริการทุกคนครับ​ 

✳️หรือแอดไลน​์ส่วนตัวปรึกษา​ผมได้โดยตรงที่ 👉 I​ am​AON​:ผมอ้นครับ

ขอใบเสนอราคากับ​ Roojai.com
ช่องทางรับคำปรึกษา คลิกที่นี่