แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ประกันรถ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ประกันรถ แสดงบทความทั้งหมด

วันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

🔴ขับรถไปลุยน้ำท่วมประกันจ่ายไหม❗

😲 ขับรถเจอน้ำท่วม เคลมประกันได้ไหม?

1️⃣ ตรวจสอบความคุ้มครองของกรมธรรม์ 
ถ้าทำประกันชั้น 1 เอาไว้สบายใจได้ เพราประกันภัยชั้น 1 ครอบคลุมถึงเหตุภัยพิบัติต่างๆ ซึ่งรวมถึงกรณีรถคุณถูกน้ำท่วม

ถึงแม้ประกันภัยชั้น 1 จะครอบคลุม การถูกน้ำท่วม หรือลุยน้ำท่วม แต่ก็มีเรื่องที่คุณควรจะทราบว่าไม่ใช่ทุกกรณีที่ประกันจะรับผิดชอบเคลมให้ คือ

1.หากเลี่ยงพื้นที่น้ำท่วมได้ ควรเลี่ยง เช่นคุณไม่ได้อยู่ในเขตน้ำท่วม แต่ขับรถไปช่วยเขตน้ำท่วม แบบนี้ประกันอาจจะไม่จ่ายเป็นได้

2.เมื่อรถพังขับต่อไม่ได้ มีกรณีที่น่าสนใจในเรื่องนี้ ว่า ถ้ากรณีรถคุณพังขับต่อไม่ได้ ไม่ว่าจะระหว่างลุยน้ำหรือ หลังจากผ่านน้ำท่วมมา ให้คุณจอดดับเครื่องโทรเรียกประกันภัยของคุณทันที แล้วแจ้งเหตุที่คุณประสบคล้ายอุบัติเหตุ อย่าพยายามสตาร์ทเครื่องยนต์อีก เนื่องจากความพยายามของคุณอาจถูกมองเป็นเหตุ จงใจทำให้ได้รับความเสียหายเพิ่มขึ้น ดังนั้น ถ้าลุยน้ำท่วมแล้วรถน็อก ทำอย่างเดียว คือ ทิ้งรถ โทรเรียกประกัน ที่สำคัญ อย่าลืม ถ่ายภาพ เป็นหลักฐาน

2️⃣ ประกันมองมูลค่าความเสียหายอย่างไร?

สำหรับบริษัทกันแล้ว กรณีรถจมน้ำ หรือถูกน้ำท่วม จะมอง เป็นสอง กรณีใหญ่ คือ

1. เสียหายทั้งหมด คือ เมื่อระดับน้ำท่วมนั้นสุงมากจนอาจจะเกินขอบคอนโซลหน้าเหนือระดับเรือนไมล์ขึ้นไป ซึ่งเป็นระดับที่เครื่องยนต์ดำอยู่ใต้น้ำทำให้ได้รับความเสียหายทั้งหมด ทางบริษัทจะตีเป็นเสียหายโดยสิ้นเชิง

2.ความเสียหายบางส่วน คือ กรณีรถคุณยังมีระดับน้ำไม่สูง เช่น น้ำเข้ารถ แต่ไม่ท่วมถึงคอนโซลหน้า ทางประกัน จะรับผิดชอบค่าความเสียหายตามมูลค่าจริงที่เกิดขึ้น โดยในบางรายการอาจจะหักค่าสึกหรอที่เกิดขึ้นในระหว่างการใช้งาน แต่จะทำการเคลมแล้วปรับปรุงสภาพจนเหมือนใหม่

 
3️⃣ วิธีปฏิบัติเมื่อเราจำเป็นต้องขับรถฝ่าน้ำท่วม

แต่ถ้ามีความจำเป็นต้องขับรถฝ่าน้ำท่วมไปให้ได้ ควรขับรถยนต์อย่างไรเพื่อเลี่ยงอาการเครื่องยนต์ดับนั้น เริ่มจาก

🙋🏻‍♂️ ตั้งสติให้พร้อมก่อน

🙋🏻‍♂️ สังเกตความสูงของระดับน้ำจากหลักถนนหรือเสาไฟฟ้างทาง ว่ารถยนต์ของเราสามารถขับไปได้หรือเปล่า

🙋🏻‍♂️ ปิดแอร์ทันที

🙋🏻‍♂️ ปรับมาใช้เกียร์ต่ำ รถธรรมดา คือ เกียร์ 1 หรือ 2 ถ้าเป็นรถเกียร์ออโต้ให้ใช้เกียร์ L ขับช้าๆ

🙋🏻‍♂️ อย่าเร่งเครื่องยนต์ให้รอบสูงเด็ดขาด เพื่อป้องกันน้ำเข้าห้องเครื่องตลอดทางจนขับผ่านน้ำท่วมไปได้

🙋🏻‍♂️ หลังจากผ่านน้ำท่วมมาแล้ว อย่าเพิ่งดับเครื่องยนต์ให้รอซักพักจนไม่มีน้ำค้างอยู่ที่ท่อไอเสียแล้วค่อยดับเครื่อง

😰 แต่เมื่อรถเราดับท่ามกลางน้ำที่ท่วมขังจะทำอย่างไร?​ ถ้าคุณคือลูกค้า​ ถูกดีประกันภัย-ประกันรถยนต์ พรบ. มากกว่า 35 บริษัท ประกันอัคคีภัย และอื่นๆ ปัญหานี้หมดไปแน่นนอนเพราะคุณจะ​ "รู้ทันก่อน​ ก่อนเสียรู้" 

📲 เมื่อรถเราดับท่ามกลางน้ำท่วม ให้โทรหาบริษัทประกันรถยนต์ก่อนเพื่อตรวจสอบว่ากรมธรรม์ของเราเป็นประเภทไหน?ครอบคลุมความเสียหายจากภัยธรรมชาติหรือเปล่า? หลังจากนั้นพนักงานเคลมประกันจะมาหาคุณที่ที่เกิดเหตุ เพื่อประสานงานเรื่องรถยก รถลาก ให้เรารอความช่วยเหลือได้อย่างสบายใจได้

ปรึกษา​ประกันภัยครบวงจร

🔴การใช้สิทธิ​ค่าขาดประโยชน์​จากการใช้รถ

🔴ในวงการประกันภัยนั้น ยังมีความรู้อีกมากมายที่ให้ผู้เอาประกันภัยได้ค้นคว้าและสามารถใช้สิทธิของตนเองได้อย่างถูกต้องครบถ้วน โดยความรู้ในวันนี้ เราขอเสนอ ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อมนั่นเอง ซึ่งหากเราเป็นฝ่ายถูก บริษัทประกันภัยของคู่กรณีจะเป็นผู้ชดใช้ค่าเสียหายในส่วนนี้ให้กับเรา แต่หากเราเป็นฝ่ายผิด บริษัทประกันภัยของเราก็จะไม่จ่ายค่าชดเชยในส่วนนี้ให้กับเรานะครับ

จะว่าไปเรื่องการชดเชยนั้นย่อมเป็นสิ่งที่ผู้เอาประกันพึงจะได้รับ แต่หากเราไม่รู้แล้ว ก็อาจจะไม่ได้ยื่นเอกสารเรียกร้องค่าเสียหายในส่วนนี้ หากเมื่อเกิดอุบัติเหตุและเราเป็นฝ่ายถูก เราสามารถเรียกร้องให้บริษัทประกันภัยของคู่กรณีชดใช้ค่าเสียหายอันเกิดจากการขาดประโยชน์จากการใช้รถได้ตามจริง ทั้งนี้

1. สำหรับรถยนต์ไม่เกิน 7 ที่นั่ง ให้บริษัทจ่ายในอัตราไม่น้อยกว่าวันละ 500 บาท 
2. สำหรับรถยนต์รับจ้างสาธารณะไม่เกิน 7 ที่นั่ง ให้บริษัทจ่ายในอัตราไม่น้อยกว่าวันละ 700 บาท 
3. สำหรับรถยนต์ที่มีขนาดเกินกว่า 7 ที่นั่งหรือรถยนต์บรรทุกผู้โดยสารรวมทั้งผู้ขับขี่เกิน 7 ที่นั่ง ให้บริษัทจ่ายในอัตราไม่น้อยกว่าวันละ 1,000 บาท

จากความรู้ข้างต้นจะเห็นได้ว่า ค่าขาดประโยชน์นั้นไม่ใช่เงินจำนวนน้อย ๆ เลยใช่ไหมครับที่บริษัทประกันภัยต้องจ่าย ซึ่งหากบริษัทฝ่าฝืน ก็อาจมีโทษปรับไม่เกิน 5 แสนบาท และปรับต่อไปเรื่อย ๆ อีกไม่เกินวันละ 2 หมื่นบาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่

เห็นอย่างนี้แล้ว เราก็มีตัวอย่างเอกสารที่ใช้ในการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์กับทางบริษัทประกันภัยมาให้ด้วยนะครับ เมื่อรู้และต้องนำรถเข้าซ่อม อย่าลืมใช้สิทธิอันเป็นประโยชน์ของผู้เอาประกันภัยกันด้วยนะครับ

⭕แล้วอย่าลืมแนบเอกสารหลักฐาน​เพิ่มเติมเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเนื่องจากการขาดประโยชน์​จากการใช้รถด้วยนะครับ​ อาทิเช่น​ ใบเสร็จ​ค่าเช่ารถ​
หากเราเรียกไปลอยๆปากเปล่าคงจะต้องโต้เถียงกันเยอะอยู่​
⭕ระเบียบกำหนดใว้คือ"ไม่น้อยกว่า" หากเราเป็นรถประเภทไม่เกิน​ 7​ ที่นั่ง​ และต้องเช่ารถเกินวันละ​ 500​ เราก็สามารถนำใบเสร็จ​นั่นมายื่นร้องขอได้ตามจริงในใบเสร็จ​ (แต่บริษัท​ประกันอาจจะประวิงการจ่ายหรือจะไม่จ่ายเราครบ​ อันนี้หากต้องการให้เป็นไปตามที่เราร้องขอก็ต้องฟ้องกันต่อนะครับ)
⭕ตรวจสอบงานบริการด้านประกันภัยได้ที่นี่จบครบทุกบริการแอดเลย​👉 คลิกเลย

✳️หรือแอดไลน​์ส่วนตัวปรึกษา​ผมได้โดยตรงที่ 👉 line.me/ti/p/~attaon

🔴ซื้อประกันรถอย่าดูแต่เบี้ยถูกที่สุด❗

🔴ซื้อประกันชั้น​ 1​ ได้เบี้ยถูกๆอย่าเพิ่งดีใจอาจได้ความคุ้มครองเท่า​ 2+
ด้วยคำเชื้อเชิญ​เบี้ยประกันชั้น​ 1​ เบี้ยไม่ถึงหมื่นแบบประหยัดสรรพคุณเคลมได้ทุกการชนมีโฆษณา​กันให้เห็นเยอะขึ้นทุกวัน​ เพราะการแข่งขันในเรื่องเบี้ยประกันที่ถูกๆจากผู้ที่มองหาประกันรถมีความต้องการสูงขึ้น​ จึงทำให้ผู้เสนอขายงัดวลีเด็ดต่างๆขึ้นมาเพื่อให้เกิดความสนใจ​ หากโชคดีถ้าปลายทางการซื้อขายเราทราบทุกเงื่อนไขที่ไม่คุ้มครองก็เป็นอันว่ารับทราบ​ แต่ถ้าคนที่เสนอขายเราไม่แจ้งข้อเท็จจริง​ที่ไม่คุ้มครองและเงื่อนไขต่างๆล่ะ​ คงต้องควักเงินจ่ายตามาอีกเยอะแน่นอน

🔴ชั้น​ 1​ เบี้ยไม่ถึงหมื่น​ ส่วนใหญ่มีเงื่อนไขดังนี้
✳️มีค่าเสียหาย​ส่วนแรกเริ่มต้น​ 3,000-5,000
✳️เคลมได้ไม่ต้องเสีย​ Excess​ แต่เฉพาะการชนกับยานพาหนะ​ทางบกเท่านั้น​ ( นี่ไงคือ​ 2+ ชัดๆ)​
✳️จำกัดทุนประกันรถไม่ได้เต็มตามมูลค่าจริงของรถเราที่ควรได้​ส่วนใหญ่​จะได้อยู่ที่​ 100,000​ -​400,000​ ตามรุ่นและยี้ห้อรถ​ ( นี่ไง​ ทุนรถพอกับทำ​ 2+ เลย)​ ถ้าเกิดเหตุคืนซากรถพังยับ สมมติ​รถเราราคา​ 700,00 ถ้ามีประกันตัวนี้คุ้มครองเต็มทุนที่​ 200,000​ คืนซากก็ได้แค่นั้นไง😭
✳️ส่วนใหญ​จะเป็นซ่อมอู่​ (รถใหม่เข้าซ่อมอู่​ เกิดเหตุเคลมอะไหล่เปลี่ยนก็ไม่ใช่ของแท้ใหม่เราจะเอารึ)

👉เลือกซื้อประกันหากไม่อยากช้ำใจควรอย่าตั้งเป้าหมายไปที่เบี้ยถูกที่สุด​ แต่อยากแนะนำให้พิจารณา​อย่างรอบด้านตามความเหมาะสมการใช้งานและความ​คุ้มครอง​ที่ดีที่สุด​ รวมถึงที่ปรึกษา​ดีดีใว้คอยดูแลเราซื้อกับบุคคล​ที่มีตัวตนทำงานได้อย่างอิสระเข้าชนประสานงานได้ทุกบริษัท​ประกันภัย​ เพื่อเหตุการณ์​ไม่คาดฝันวันข้างหน้า​ #ประกันภัยรถยนต์ต้องมีคนดูแล
⭕ตรวจสอบงานบริการด้านประกันภัยได้ที่นี่จบครบทุกบริการแอดเลย​👉 ปรึกษาเพิ่มเติม

✳️หรือแอดไลน​์ส่วนตัวปรึกษา​ผมได้โดยตรงที่ 👉 line.me/ti/p/~attaon

🔴เตือนนะ​จ๊ะ... ประกันชั้น1​ เบี้ยไม่ถึงหมื่น❗

🔴เตือนนะจ๊ะ​ เมื่อจะซื้อประกันรถ❗
🤣พาดหัวมาก็ดูน่ากลัวเลยใช่ไหมครับ​ แต่อย่างเพิ่งตกใจ​ ในโพสต์​จะขอพูดถึง​สิ่งที่ต้องควรระวังยอดฮิต​ที่เราจะพบเจอเมื่อจะซื้อประกันรถในทุกๆปี​ แต่ผมรับรองได้เลยว่าถ้าเราทราบสิ่งเหล่านี้ที่ผมจะกล่าวต่อไป เราจะได้ประกันรถดีดี​ เคลมประกันได้สบายแน่นอน🎉
1️⃣ เบี้ยถูกเกิ๊น​
แน่นอนครับที่เราจะหาหาประกันรถทั้งที่มักจะตั้งเงื่อนไขอันดับแรกมาเลยว่าขอเบี้ยที่ถูกที่สุด​ บ้างก็เปิดให้ตัวแทน/นายหน้า​ ยื่นเบี้ยแข่งกันเลยเชียว​ แบบนี้ล่ะครับจึงทำให้เกิดช่องทางกลอุบายต่างๆที่จะทำให้เบี้ยประกันลดลง​ โดยอาจจะเลือกแผนความคุ้มครองที่ต่ำ​ ทุนประกันรถที่ต่ำ​ หรือใช้เงื่อนไขต่างๆแอบเข้ามาโดยผู้เอาประกันภัย​อาจจะไม่ทราบ​ เพราะเค้าจะใช้เทคนิคเอกสารแนบท้ายแล้วไม่เปิดเผยข้อมูล​เท็จ​จริง​ให้ทราบ

👉" เบี้ยประกันภัย​ถูกแพง ขึ้นอยู่กับ​เกรดบริษัท​ประกันภัย​ วงเงินคุ้มครอง​ และพฤติกรรม​ขับขี่ตามแต่ละบุคคล​ รถรุ่นเดียวกันปีเดียวกัน​เบี้ยประกัน​อาจจะไม่เท่ากันก็ได้​"
2️⃣ ทุนประกันรถสูงลิ่ว
ระยะหลังมานี้ปัญหาการตั้งทุนประกันรถที่สูงเกินจริงจะพบบ่อยมากขึ้น​ เพราะผู้เอาประกันภัย​จะไม่ทราบวิธีคำนวณทุนประกันรถจริงของตัวเอง​ ประกอบกับการแข่งขันเบี้ยให้ถูกลงมาถึงทางตันลดเพิ่มอีกไม่ได้​ กลุ่มบุคคล​เหล่านี้ที่ไม่ยึดจรรยาบรรณ​ในอาชีพจึงใช้วิธีทำใบเสนอราคามาเอง​เสนอทุนประกันรถสูงลิ่วสะเลยให้เป็นแรงจูงใจให้ผู้ที่สนใจหลงในข้อเท็จจริง​โดยเห็นว่ารถของตนนั้นได้รับทุนประกันเพิ่มขึ้นจากปีก่อน​ แต่สุดท้ายเมื่อมีการรับประกัน​จากบริษัท​ประกันภัย​ ข้อตกลงต่างๆก็ไม่ได้ตามจริง​ แต่ก็มีบางรายได้ตามที่เสนอมาแต่ท่านทราบหรือไม่ถึงแม้ว่าเราจะได้รับทุนประกันที่เกินจริงนั้น​ เมื่อถึงเวลาเกิดเหตุไม่คาดฝัน​ต้องคืนทุน​ บริษัท​ประกันภัย​จะพิจารณา​ที่ทุนจริงตามหลักเกณฑ์​พิจารณา​ กลายเป็นเรื่องฟ้องร้องตามมาอีก

👉" การคำนวนทุนประกันโดยง่าย​ รถป้ายแดงปีแรก​ทุนประกันรถจะอยู๋ที่​ 80% ของราคาซื้อขาย​ และในทุกๆปีทุนประกันรถเราจะลดลง​ 10% โดยหลักเกณฑ์​ "
3️⃣ ให้จองเบี้ย
​นี่คือปัญหา​ยอดฮิตเลยล่ะครับที่หลายคนพบเจอ​ เพิ่งออกรถมาได้ไม่กี่เดือน​ หรือประกันรถยังเหลืออีกหลายเดือนกว่าจะหมด​ ก็จะมีเหล่านักขายทางโทรศัพท์​โทรมาเสนอประกันสะแล้ว​ มิหนำซ้ำอ้างว่าได้รับมอบอำนาจจากศูนย์รถยนต์ชื่อดังต่างๆว่าให้มาดูแล​ และแจ้งเบี้ยประกันรถที่ถูกมากจูงใจให้เราหลงพูดตอบว่า"สนใจ" ท่านทราบหรือไม่​ การซื้อขายทางโทรศัพท์​นั้นคำพูดของเราสามาถใช้ทำเป็นสัญญาได้​เมื่อท่านตอบรับ​ โดยในการจบงานของเค้า​จะให้มีการจองเบี้ยเกิดขึ้น​ 3,000-5,000​ ทันที​ และถ้าเราต้องการผ่อนชำระเค้าก็จะให้ผ่อนชำระเลยทันทีเช่นกันทั้งๆที่ประกันตัวเดิมยังไม่หมด สุดท้ายพอถึงเวลาเบี้ยที่เค้าเคยเสนอเราเค้าก็จะกลับลำแจ้งมาว่าเบี้ยมีการถูกปรับขึ้นต้องชำระเพิ่ม​ โดยทั้งกระบวนการ​ที่กล่าวมานี้ผิดตั้งแต่ต้น​ การมาเสนอขายล่วงหน้าแบบนี่อย่าหาทำครับ

👉" เช็คประกันรถได้ล่่วงหน้าภายใน​ 30​ วันก่อนวันหมดความ​คุ้มครอง​ของประกันเดิมดีที่สุด​ การเลือกซื้อก็ยิ่งง่ายดำเนินการวันเดียวเสร็จ​คุ้มครองทันทีทั้งแบบชำระเต็ม​และเงินผ่อน​"
4️⃣ เงื่อนไข​พิเศษ
อีกปัจจัย​นึงที่เราๆต้องทราบเลยที่จะทำให้เบี้ยประกันถูกลง​คือ​ ส่วนลดประวัติดี​(เบี้ยปีต่อที่เดิมไม่เคยเคลม)​, ระบุชื่อผู้ขับขี่​, การทำข้อตกลงค่าเสียหาย​ส่วน​แรก​(DEDUCTIBLE), เบี้ยแคมเปญเฉพาะบุคคล​ และที่สำคั​ญ​คือความคุ้มครอง(สูญหาย​, ไฟไหม้​, น้ำท่วม) ที่ผมเคยพบมาเลยก็คือประกันทางออนไลน์​แห่งนึงเป็นประเภทชั้น​ 1​ แต่มีแอบสลักหลังว่าไม่คุ้มครองน้ำท่วม​ โดยทั้งที่ประกันชั้น​ 1​ ทั่วไปต้องคุ้มครองในตรงนี้อยู่แล้ว​ หากเราดูไม่เป็นก็จะหลงในข้อเท็จจริง​ เกิดเหตุขึ้นมาก็ช้ำใจ​ แบบนี้ไงครับเราถึงได้เบี้ยถูก

👉" เราในฐานะผู้เอาประกันภัย​ต้องอ่านกรมธรรม์​เบื้องต้นได้​ ตรวจสอบความคุ้มครองในแต่ละหมวดเป็น​"
5️⃣ ความน่าเชื่อถืิอ
ข้อนี้จะเป็นปัจจัยเสริมเลยทีเดียวครับที่จะทำให้ประกันภัยรถยนต์​ที่เราซื้อมีคุณค่า​มากขึ้น​ เคลมง่ายขึ้น​ ไม่ติดปัญหา​ใดๆ​ เพราะถ้าท่านได้นายหน้า​/ตัวแทนที่ดีในอาชีพยึดหลักจรรยาบรรณ​ ขายแล้วไม่ทิ้งกันช่วยเป็นที่ปรึกษา​ได้ตลอดสัญญา​ และพร้อมเดินเรื่องเอกสารต่างๆให้เราแทนยามเมื่อเกิดปัญหา​ขัดแย้งกับบริษั​ทประกันภัย​ หากเราได้ที่ปรึก​ษาดี​ การจะซื้อประกันเบี้ยถูกหรือแพง​ จากบริษัท​ประกันภัย​ไหนก็ไม่ต้องกังวลต่อไป​

👉" พิจารณา​บุคคลที่เสนอขายประกันอย่างรอบ​ สังกัดโบรกเกอร์​ชัดเจนตรวจสอบใบทะเบียนได้​ หากรู้จักผ่านทางโซเชียลมีเดียวต้องตรวจสอบความเปิดเผยตัวตนที่เป็นสาธารณะ​ ทั้งในเฟส​บุ๊ค​ และการประกอบในวิชาชีพ​ ทัศนคติ​ต่างๆ​ รวมถึงระบบช่องทางการติดต่อสื่อสาร​มีความเป็นมืออาชีพมากน้อยเพียงใด​ พร้อมที่จะดูแลลูกค้ามากน้อยแค่ไหน
6️⃣ หลายคนเวลาเลือกซื้อประกันรถมักจะหาแต่เบี้ยถูกใว้ก่อนแล้วค่อยมาดูว่าเป็นของบริษั​ทประกันภัยไหน​ สุดท้ายต้องช้ำใจกันเพราะเลือกไปแล้วกลับเคล​​ม​ ศูนย์​/อู่​ ที่เราเคยใช้บริการประจำไม่ได้​ หรือบางทีซื้อประกันรถมาด้วยความหลงผิดในข้อเท็จจริง​เห็นเบี้ยประกันถูกคนเสนอขายพูดดีเลยหลงเชื่อเข้าใจว่าจะเป็นซ่อมศูนย์​พอแจ้งเคลมเข้าจริงกลับเป็นเบี้ยซ่อมอู่​ กว่าจะทราบเรื่องก็ผ่านมานาน​แต่เราไม่ตรวจสอบ​ในกรมธรรม์​ให้ดี​ ในทางกลับกันหากเราไม่มีเคลมเราก็จะไปคุยโว้โอ้อวดว่าเราได้ประกันรถชั้น​ 1​ แบบนั่นแบบนี้ถูกมาก​ ให้ความหลงผิดข้อเท็จจริง​กระจายต่อไปแบบปากต่อปากจนทำให้ผู้คนสับสนในระเบียบข้อกำหนดพื้นฐาน​ไป

✳️เหล่านี้ที่ผมได้เรียบเรียงขึ้นมาเป็นข้อหลักๆในปัญหาของผู้เอาประกันภัย​ที่โดนเอาเปรียบมาโดยตลอดซ้ำแล้วซ้ำเล่า​ ขัอให้สิ่งเหล่านี้เป็นประโยชน์​แก่ทุกท่านที่อ่านจนจบด้วยนะครับ​ และถ้าหากมองหาที่ปรึกษา​ด้านประกันภัย​ติดต่อผมมาได้ที่​ ถูกดีประกันภัย-ประกันรถยนต์ พรบ. มากกว่า 35 บริษัท ประกันอัคคีภัย และอื่นๆ ยินดีบริการทุกท่านและให้ความรู้เทคนิคเคลมประกันให้ได้ไม่มีค่าใช้จ่ายแน่นอน​ ขอบคุณ​ครับ​🙏
⭕ตรวจสอบงานบริการด้านประกันภัยได้ที่นี่

✳️หรือแอดไลน​์ส่วนตัวปรึกษา​ผมได้โดยตรงที่ 👉 line.me/ti/p/~attaon

ช่องทางการติดต่อเพิ่มเติม คลิกที่นี่

🔴การดูกรมธรรม์​เบื้องต้น

🔴ประเภทความคุ้มครอง

1️⃣ความคุ้มครองความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก (Third Party Bodily Injury: TPBI) ให้ความคุ้มครองความรับผิดต่อการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตของบุคคลภายนอก และความรับผิดต่อการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตของผู้โดยสารในรถคันเอาประกันภัย โดยมีจํานวนเงินขั้นต่ำที่บริษัทต้องรับประกันภัยจํานวน 100,000 บาทต่อคน และ 10,000 บาทต่อครั้ง ทั้งนี้จํานวนเงินจํากัดความรับผิดนี้ถือเป็นส่วนเกินจากความคุ้มครองตามกรมธรรม์คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ
2️⃣ความคุ้มครองความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก (Third Party Property Damage: TPPD) ให้ความคุ้มครองความรับผิดต่อความเสียหายใดๆ อันเกิดแก่ทรัพย์สินของบุคคลภายนอก โดยมีจํานวนเงินขั้นต่ำที่บริษัทต้องรับประกันภัยจํานวน 200,000 บาทต่อครั้ง
3️⃣ความคุ้มครองความรับผิดต่อความเสียหายของตัวรถยนต์ (Own Damage: OD) ให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นระหว่างเวลาประกันภัยต่อรถยนต์ รวมถึงอุปกรณ์ เครื่องตกแต่ง และส่วนควบที่ติดประจำอยู่กับตัวรถยนต์ แต่ไม่รวมความเสียหายที่เกิดจากไฟไหม้ โดยมีจํานวนเงินขั้นต่ำที่บริษัทต้องรับประกันภัยจํานวน 50,000 บาท (รถจักรยานยนต์ 5,000 บาท) ทั้งนี้การรับประกันภัยตัวรถยนต์ไม่ควรรับประกันภัยในจํานวนเงินจํากัดความรับผิดต่ำกว่า 80% ของราคารถยนต์ในวันเริ่มการประกันภัย เว้นแต้รถยนต์ที่ไม่มีการเสียภาษีขาเข้า
4️⃣ความคุ้มครองความรับผิดต่อความสูญหายและไฟไหม้ของตัวรถยนต์ (Fire and Theft: F&T) ให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของรถยนต์ รวมทั้งอุปกรณ์ เครื่องตกแต่ง และส่วนควบที่ติดประจำอยู่กับตัวรถยนต์ ที่ถูกไฟไหม้ หรือสูญหายไป
ไฟไหม้ในที่นี้ หมายถึง ความเสียหายต่อรถยนต์ที่เป็นผลมาจากไฟไหม้ ไม่ว่าจะเป็นการไหม้โดยตัวของมันเองหรือเป็นการไหม้ที่เป็นผลสืบเนื่องมาจากสาเหตุอื่น

การสูญหายในที่นี้ รวมถึงความเสียหายต่อรถยนต์ รวมทั้งอุปกรณ์เครื่องตกแต่ง หรือสิ่งที่ติดประจําอยู่กับตัวรถยนต์ ที่เป็นผลมาจากการลักทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ ยักยอกทรัพย์ หรือเป็นผลมาจากการพยายามกระทำดังกล่าวนั้น
5️⃣ความคุ้มครองเพิ่มเติม แบ่งออกเป็น 3 ความคุ้มครองหลักๆ ดังนี้
- การประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (Personal Accident)
บริษัทจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ต่อความสูญเสียอันเกิดจากความบาดเจ็บของผู้ขับขี่และ/หรือผู้โดยสาร ซึ่งอยู่ในรถหรือกำลังขับขี่ หรือกำลังขึ้น หรือกำลังลงจากรถยนต์ โดยอุบัติเหตุ

- การประกันภัยค่ารักษาพยาบาล (Medical Expense)
บริษัทจะชดใช้ค่ารักษาพยาบาล ค่าบริการทางการแพทย์ ค่าผ่าตัด และค่าบริการอื่นๆ ตามที่จ่ายจริง ซึ่งเกิดขึ้นภายใน 1 ปี นับตั้งแต่วันเกิดอุบัติเหตุ เพื่อผู้ขับขี่และ/หรือผู้โดยสารในรถคันเอาประกันภัย ซึ่งได้รับบาดเจ็บทางร่างกาย เนื่องจากอุบัติเหตุในขณะอยู่ในรถ หรือกำลังขึ้น หรือกำลังลงจากรถยนต์ แต่ทั้งนี้ไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัย

- การประกันตัวผู้ขับขี่ (Bail Bond)
บริษัทจะประกันตัวผู้เอาประกันภัย หรือบุคคลใดซึ่งขับรถยนต์ โดยได้รับความยินยอมจากผู้เอาประกันภัย ในกรณีรถยนต์ที่เอาประกันภัยไว้เกิดอุบัติเหตุ เป็นเหตุให้บุคคลดังกล่าวถูกควบคุมตัวในคดีอาญา
⭕ตรวจสอบงานบริการด้านประกันภัยได้ที่นี่จบครบทุกบริการแอดเลย​

✳️หรือแอดไลน​์ส่วนตัวปรึกษา​ผมได้โดยตรงที่ 👉 line.me/ti/p/~attaon

รับคำปรึกษาเพิ่มเติม คลิกที่นี่

🔴ยางแตก​ เคลมประกันได้ไหม❗


🔴ฉบับแก้ไข
คำสั่งนายทะเบียนที่ 66/2563 หน้า 100
👉ยางรถยนต์ ซึ่งถือว่าเป็นอุปกรณ์ของรถยนต์ จึงต้องได้รับความคุ้มครองตามความคุ้มครองในกรมธรรม์ประกันภัยดังกล่าว

 แต่กระนั้นความคุ้มครองในยางรถยนต์ ต้องเป็นความคุ้มครองที่เรียกว่า ”คุ้มครองอย่างมีเงื่อนไข” เพราะความเสียหายของยางรถยนต์นั้น เป็นข้อยกเว้นไม่คุ้มครองที่ถูกระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ ในหมวด ”การยกเว้นความเสียหายต่อรถยนต์ การประกันภัยนี้ไม่คุ้มครอง” ซึ่งมีอยู่ 5 ข้อด้วยกัน

 ✅1 การเสื่อมราคา หรือการสึกหรอของรถยนต์
 ✅2 การแตกหักของเครื่องจักรกลไกของรถยนต์ การเสีย หรือการหยุดเดินของ
 เครื่องจักรกลไกหรือเครื่องไฟฟ้าของรถยนต์อันมิได้เกิดจากอุบัติเหตุ
 ✅3 ความเสียหายโดยตรงของรถยนต์ อันเกิดจากการบรรทุกน้ำหนักหรือจำนวนผู้
 โดยสารเกินกว่าที่ได้รับอนุญาต อันมิได้เกิดจากอุบัติเหตุ
 ✅4 ความเสียหายต่อยางรถยนต์ อันเกิดจากการฉีกขาด หรือการระเบิด​ หรือจากสภาพการใช้งานปกติ เว้นแต่กรณีมีความเสียหายเกิดขึ้นต่อส่วนอื่นของรถยนต์ในเวลาเดียวกัน
 ✅5 ความเสียหายอันเกิดจากการขาดการใช้รถยนต์ เว้นแต่การขาดการใช้นั้นเกิดจาก
 บริษัทประวิงการซ่อมหรือซ่อมล่าช้าเกินกว่าที่ควรจะเป็น โดยไม่มีเหตุผลอัน
 สมควร
 ดังนั้นจากข้อความที่กล่าวไว้ว่า ยางรถยนต์เป็นอุปกรณ์ของรถยนต์ที่มี ”ความคุ้มครองอย่างมีเงื่อนไข” หมายถึง ยางรถยนต์เกิดการฉีกขาดหรือระเบิดจากการใช้งานปรกติ จะไม่ได้รับความคุ้มครอง แต่ถ้าการฉีกขาดหรือการระเบิดของยางเกิดจาก รถยนต์เกิดอุบัติเหตุ การกลั่นแกล้ง หรือการกระทำมุ่งร้ายจะได้รับความคุ้มครอง

 อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่คุ้มครองยางรถยนต์ด้วยเงื่อนไขดังกล่าว แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นอันเป็นผลมาจากอย่างยางระเบิด  เช่น ตัวรถยนต์ ทรัพย์สินบุคคลภายนอกยังคงต้องได้รับความคุ้มครองปรกติ

 ในทางกลับกันการเกิดอุบัติเหตุจากสาเหตุอย่างอื่น และเป็นเหตุให้ยางเกิดการระเบิดหรือฉีกขาด ยางต้องได้รับความคุ้มครอง

 แต่ความคุ้มครองที่ได้รับนั้น เป็นการชดใช้ตามสภาพเดิมของยางรถยนต์ที่เกิดความเสียหายในขณะที่เกิดอุบัติเหตุนั้นหมายถึงจะไม่ได้ชดเชยเต็ม​จำนวนนะครับ​  ปรึกษาปัญหา​ประกันภัย​รถยนต์​ได้ที่ลิงค์​นี้ได้เลยนะครับ​➡️
หรือเลือกแผนประันภัยรถยนต์​ดีดีได้ที่​ ถูกดีประกันภัย-ประกันรถยนต์ พรบ. มากกว่า 35 บริษัท ประกันอัคคีภัย และอื่นๆ  หมดกังวลเรื่องประกันภัย​รถยนต์​ให้ผมดูแลได้เลยครับ​ 

ช่องทางการติดต่อ คลิกที่นี่

🔴ประกันรถทำไมต้องมีค่า​เสีย​หายส่วนแรก❓

🔴ไขข้อข้องใจ ค่าเสียหายส่วนแรก Excess กับ Deductible ต่างกันอย่างไร หาคำตอบได้ที่บทความนี้เลยครับ!
 
ค่าเสียหายส่วนแรกแบบ Excess
ค่า Excess หมายถึง ค่าเสียหายส่วนแรกแบบ ภาคบังคับ ซึ่งจะมีระบุไว้ในเงื่อนไข โดยจะมีข้อกำหนดว่า เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ผู้ใช้รถจะต้องรับผิดชอบร่วมกับบริษัทประกันภัยเป็นค่าเสียหายส่วนแรก 1,000 บาท (แม้จะมีประกันชั้น 1 ก็ต้องจ่าย)
🔰โดยขึ้นอยู่กับกรณีดังนี้
✅อุบัติเหตุที่ไม่ได้เกิดจากการชน หรือรถพลิกคว่ำ
✅อุบัติเหตุที่ไม่สามารถระบุคู่กรณีได้

❓ทำไมถึงต้องจ่ายค่า Excess?
เชื่อว่าหลายๆ คนต้องสงสัยว่า ทั้งๆ ที่จ่ายเบี้ยประกันแล้ว ทำไมเราถึงยังต้องจ่ายค่า Excess อยู่ล่ะ
🔴 คำตอบนั้นมีอยู่ 2 ข้อด้วยกัน คือ
เพื่อป้องกันกรณีที่ผู้เอาประกันแจ้งเคลมทั้งที่ไม่ได้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นจริง อย่างเช่น อยากทำสีรถใหม่เลยใช้คัตเตอร์กรีดให้เป็นรอยแล้วแจ้งเคลมกับประกัน
เพื่อให้ผู้เอาประกันไม่เกิดความประมาทในการขับรถ ไม่ใช่ว่าจะขับแบบไหนก็ได้เพราะรู้อยู่แล้วว่าประกันจะจ่ายค่าเสียหายให้

❓ทำไมถึงต้องจ่ายค่า Excess?
 
กรณีไหนที่ต้องเสียหรือไม่เสียค่า Excess
เมื่อทราบกันแล้วว่าค่า Excess หมายถึงอะไร แต่ยังไม่เห็นภาพชัดว่ากรณีไหนบ้างที่ต้องเสียหรือไม่เสียค่าใช้จ่าย มาดูรายละเอียดของเรื่องนี้กันเลยดีกว่าครับ

🔴กรณีที่ต้องเสีย ได้แก่ กรณีที่รถของคุณเกิดความเสียหายแต่ ไม่สามารถระบุคู่กรณี​ หรือเหตุจากการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดการเคลมขึ้น​ โดยต้องระวังในการพิจารณา​ของเจ้าหน้าที่ที่เข้ามาตรวจสอบว่าจะตีความอย่างไร​ และมีเหตุน่าเชื่อถือไหม​ โดยทางที่ดีแนะนำไม่ว่าจะเกิดแผลเล็กแผลน้อยควรแจ้งเคลมสดทันทีเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา​ที่จะตามมาภายหลัง​ ❌สิ่งที่ไม่ควรทำคือการแจ้งเคลมทีเดียวรอบคัน​ 
อย่างไรก็ตาม ค่าเสียหายส่วนแรกสำหรับกรณีเหล่านี้จะเรียกเก็บครั้งละ 1,000 บาท ตามจำนวน เหตุการณ์ ไม่ใช่ต่อร่องรอยความเสียหาย ยกตัวอย่างเช่น รถของคุณถูกก้อนหินกระเด็นใส่มีรอยบุบ 3 รอย ก็จ่ายเพียง 1,000 บาท

แต่ถ้าหากรถของคุณมีรอยบุบจากหินกระเด็นใส่ และมีรอยขีดข่วนจากรั้วลวดหนามด้วย จะนับเป็นความเสียหายจาก 2 เหตุการณ์ แปลว่าคุณต้อง 1,000 บาท x 2 เหตุการณ์ เท่ากับ 2,000 บาทนั่นเอง

🔴กรณีที่ไม่ต้องเสีย ได้แก่ กรณีที่รถของคุณเกิดอุบัติเหตุ หรือความเสียหายที่สามารถ ระบุคู่กรณีได้ หรือมีภาพหลักฐานเหคุการณ์ที่ระบุได้ชัดเจน เช่น
รถชนเข้ากับพาหนะอื่นและสามารถแจ้งรายละเอียดของคู่กรณีได้
✅รถชนเข้ากับฟุตปาท กำแพง ป้ายจราจร ต้นไม้ หรือเสาไฟฟ้า
✅รถชนเข้ากับคน หรือสัตว์
✅รถพลิกคว่ำ
อย่างไรก็ตาม ประกันจะไม่คุ้มครองกรณีที่อุบัติเหตุเหล่านี้เกิดจาก เมาแล้วขับ ขับรถแข่งซิ่ง หรือใช้ในกรณีที่คุณทำผิดกฏหมายทุกกรณี เพราะฉะนั้น พยายามขับรถกันอย่างระมัดระวังและเคารพกฏหมายกันด้วย เพราะเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ประกันจะไม่จ่ายให้นะครับ
 
🔴ค่าเสียหายส่วนแรกแบบ Deductible
ค่า Deductible หมายถึง ค่าเสียหายส่วนแรกแบบ ภาคสมัครใจ ซึ่งจะค่อนข้างแตกต่างจากแบบ Excess เพราะเป็นค่าเสียหายส่วนแรกที่คุณยอมเสียให้กับบริษัทประกันทุกครั้งที่มีการเคลมในอุบัติเหตุ ที่คุณเป็นฝ่ายผิด 
 
โดยในขั้นตอนการทำประกัน จะมีเงื่อนไขให้คุณเลือกที่จะจ่ายค่า Deductible หรือไม่ ซึ่งถ้าคุณยอมจ่ายจะช่วยลดเบี้ยประกันตามจำนวนค่า Deductible ที่คุณระบุไว้

เช่น เบี้ยประกันรายปี 10,000 บาท แต่หากคุณระบุว่า ยินดีจ่ายค่า Deductible ทุกครั้งที่เกิดเหตุแล้วคุณเป็นฝ่ายผิด 2,000 บาท ซึ่งจะไปหักลบกับเบี้ยประกัน ทำให้คุณต้องจ่ายเพียง 8,000 บาทเท่านั้น

แต่ค่า Deductible นี้ไม่ได้มีทุกบริษัท หากคุณสนใจในเงื่อนไขนี้แนะนำให้สอบถามข้อมูลกันให้ดีๆ ก่อนนะครับ

🔰ค่าเสียหายส่วนแรก🔰
 
🔴จ่าย หรือ ไม่จ่าย แบบไหนคุ้มกว่ากัน?
เมื่อทราบกันแล้วว่าค่าเสียหายส่วนแรกแบบ Deductible คืออะไร ก็มาถึงคำถามที่ว่าเลือก จ่าย หรือ ไม่จ่าย แบบไหนจะคุ้มค่ากว่ากัน? ซึ่งคำตอบก็ขึ้นอยู่กับว่า คุณมีเชี่ยวชาญในการขับรถมากแค่ไหน

🔴หากคุณเป็น ผู้ชำนาญในการขับรถ และมั่นใจว่าการขับของคุณปลอดภัย ไม่ไปเฉี่ยวหรือชนเข้ากับอะไรง่ายๆ แน่นอน ก็ควรเลือกที่จะจ่ายค่า Deductible นี้ เพราะจะช่วยให้คุณประหยัดเบี้ยประกันในแต่ละปีไปได้มาก และแม้จะเกิดอุบัติเหตุ แต่ถ้าคุณไม่ได้เป็นฝ่ายผิดก็ไมต้องจ่ายอะไรเช่นเดียวกัน

แต่ถ้าหากคุณ ไม่ชำนาญในการขับรถ หรือยังเป็นมือใหม่หัดขับอยู่ และคิดว่ารถของคุณมีโอกาสที่จะชนนู่นชนนี่บ่อยครั้ง เงินติดล้อแนะนำว่าให้คุณเลือกไม่จ่ายค่า Deductible จะดีที่สุด มิฉะนั้นค่าเบี้ยประกันที่ลดลงมา อาจไม่คุ้มกับค่าเสียหายส่วนแรกที่คุณต้องจ่ายไป

🔴หากคุณกำลังมองหาที่ปรึกษา​ประกันภัยที่คอยให้คำแนะนำและหลีกเลี่ยง ค่าเสียหายส่วนแรกเหล่านี้ คุณสามารถปรึกษากับเรา ถูกดีประกันภัย-ประกันรถยนต์ พรบ. มากกว่า 35 บริษัท ประกันอัคคีภัย และอื่นๆ ได้เลยครับ เราเป็นโบรกเกอร์ที่มีประกันภัยรถยนต์ให้คุณเลือกหลากหลายรูปแบบ พร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญที่สามารถให้คำปรึกษาคุณได้อย่างตรงจุด ติดต่อขอรายละเอียดได้ลิงค์ของเรายินดีให้บริการทุกคนครับ​ 

✳️หรือแอดไลน​์ส่วนตัวปรึกษา​ผมได้โดยตรงที่ 👉 I​ am​AON​:ผมอ้นครับ

ขอใบเสนอราคากับ​ Roojai.com
ช่องทางรับคำปรึกษา คลิกที่นี่