แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ค่าเสียหายส่วนแรก แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ค่าเสียหายส่วนแรก แสดงบทความทั้งหมด

วันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

🔴เทคนิคแจ้งเคลมประกันชั้น1​ ไม่มีคู่กรณี​

🔴ถึงแม้จะเป็นประกันชั้น​ 1​ ถ้าแจ้งเคลมแบบไม่มีคู่กรณี​ก็อาจจะต้องเสียค่า​เสียหายส่วนแรกนะจ๊ะ​ เริ่มต้น​ 1,000​ บาท ถึงแม้ในกรมธรรม์​ที่เราซื้อจะไม่ระบุ​ แต่ระเบียบ​ค.ป.ภ.​ ระบุใว้ชัดเจน
🎯ประกันชั้น 1 แต่ต้องเคลมโดยไม่มีคู่กรณี
     เราจะต้องทำยังไงบ้าง?

✅แจ้งนำรถเข้าซ่อม
โดยแจ้งศูนย์บริการที่จะนำรถเข้าซ่อม แจ้งรายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้น และเราต้องการนำรถเข้าซ่อม ทางศูนย์บริการจะให้เราแจ้งบริษัทประกันภัยเพื่อแจ้งเคลม และขอเลขเคลมมา

✅ติดต่อบริษัทประกันภัยรถยนต์
แจ้งบริษัทประกันภัยรถยนต์ที่เราทำประกันรถยนต์เอาไว้ แจ้งว่าเราต้องการขอเลขเคลมเพื่อนำรถยนต์เข้าซ่อม บริษัทประกันภัยจะรับแจ้ง ขอรายละเอียดของอุบัติเหตุเพื่อทำเรื่องต่อ การแจ้งเหตุแบบไม่มีคู่กรณี

✅แจ้งวัน เวลาเกิดเหตุ
แจ้งวัน และเวลาเกิดเหตุโดยแจ้งให้ใกล้เคียงวันที่เราแจ้งเคลมมากที่สุด เช่น หากเราแจ้งเคลมวันที่ 24 สิงหาคม ก็ให้แจ้งว่าเกิดเหตุวันที่ 23 สิงหาคม เป็นต้น หากเราแจ้งเหตุวัน-เวลาจริงทางบริษัทประกันภัยอาจจะอ้างว่าเหตุเกิดนานแล้ว และไม่รับแจ้งได้

✅แจ้งว่าชน หรือเฉี่ยวกับสิ่งไม่มีชีวิต
คือแจ้งว่าชน เฉี่ยวกับสิ่งไม่มีชีวิต เช่น กระถางต้นไม้ รั้ว กำแพง เสา เป็นต้น แต่ต้องดูให้สมจริงที่สุดด้วย เช่น แผลอยู่กันชนด้านหลัง บอกว่าชนกระถางก็ยังน่าเชื่อถือ ถ้าไฟหน้าแตก จะบอกว่าชนกระถางก็กระไรอยู่ จริงไหมครับ แต่ทางบริษัทประกันภัยก็อาจจะเล่นแง่อีก ดังนั้นอย่าบอกว่าโดนชนแล้วหนีนะครับ ไม่อย่างนั้นอาจจะโดนทางบริษัทประกันขอให้ตามหาคู่กรณี แล้วเรื่องก็จะยืดเยื้อไปเรื่อย ไม่ได้เคลมสักทีนั่นเอง

✅ขอเลขเคลมได้ทั้งคั้น
การขอเลขเคลมนี้ เราสามารถขอเลขเคลมได้ทั้งคันนะครับ ไม่ว่าเราจะชนมานานแค่ไหนแล้วก็ตาม แต่ว่าอย่าลืมทำตามข้อ 1 นะครับ คือแจ้งวันเกิดเหตุให้ใกล้กับวันแจ้งเหตุที่สุดจะเป็นการดี หากมีหลายแผล หลายระดับความเก่า อันนั้นคงต้องคิดแผนกันอีกทีครับ

✅เมื่อได้เลขเคลมแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับเราแล้วครับว่าเราจะนำรถเข้าซ่อมเมื่อไหร่ ไม่ได้จะต้องนำรถเข้าซ่อมทันทีหลังได้เลขเคลมนะครับ ใบเคลมจะมีอายุประมาณ 1 ปี เอาเป็นว่านำรถเข้าซ่อมก่อนใบเคลมหมดอายุก็พอครับ

✅นำรถเข้าซ่อม
เมื่อได้ฤกษ์จะนำรถเข้าซ่อม ก็เพียงแค่นำรถไปที่ศูนย์บริการ พร้อมใบเคลมครับ ยื่นใบเคลม พร้อมเซ็นเอกสารสั่งซ่อม ทางศูนย์ก็จะทำการประเมินแล้วนัดวันรับรถ หากซ่อมจุกจิก ทางบริษัทประกันอาจจะแนะนำอู่ให้เราถือใบเคลมไปเปลี่ยนเอง แบบนั้นก็สามารถนั่งรอรับรถได้เลยครับ

✅ชื่อคนขับไม่ตรงกับชื่อคนแจ้งเคลม
ส่วนนี้จริงๆ แล้วไม่น่าจะมีปัญหานะครับ เพราะส่วนใหญ่คนที่มีพลขับรถก็จะให้พลขับเป็นคนจัดการ และเป็นคนเซ็นใบเคลม แต่หากบริษัทประกันจะเล่นแง่ ก็บอกตามจริงไป ว่าเอารถสามี หรือภรรยามาขับ เรื่องมากอีก ขู่ว่าจะถอนประกันไปทำกับบริษัทอื่นเลย
            🔰ซื้อประกันภัยรถอย่างเข้าใจ🔰
           🎖️คลิกง่าย​ คุ้มครองดี​ มีคนดูแล🎖️
แอดเลย➡️ ถูกดีประกันภัย-ประกันรถยนต์ พรบ. มากกว่า 35 บริษัท ประกันอัคคีภัย และอื่นๆ 
รับคำปรึกษาเพิ่มเติม คลิกเลย

#ประกันภัยรถยนต์​ #ประกันชั้น1​ #เคลมประกัน​ #ค่าเสียหายส่วนแรก​ #ประกันรถ

🔴การดูกรมธรรม์​เบื้องต้น

🔴ประเภทความคุ้มครอง

1️⃣ความคุ้มครองความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก (Third Party Bodily Injury: TPBI) ให้ความคุ้มครองความรับผิดต่อการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตของบุคคลภายนอก และความรับผิดต่อการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตของผู้โดยสารในรถคันเอาประกันภัย โดยมีจํานวนเงินขั้นต่ำที่บริษัทต้องรับประกันภัยจํานวน 100,000 บาทต่อคน และ 10,000 บาทต่อครั้ง ทั้งนี้จํานวนเงินจํากัดความรับผิดนี้ถือเป็นส่วนเกินจากความคุ้มครองตามกรมธรรม์คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ
2️⃣ความคุ้มครองความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก (Third Party Property Damage: TPPD) ให้ความคุ้มครองความรับผิดต่อความเสียหายใดๆ อันเกิดแก่ทรัพย์สินของบุคคลภายนอก โดยมีจํานวนเงินขั้นต่ำที่บริษัทต้องรับประกันภัยจํานวน 200,000 บาทต่อครั้ง
3️⃣ความคุ้มครองความรับผิดต่อความเสียหายของตัวรถยนต์ (Own Damage: OD) ให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นระหว่างเวลาประกันภัยต่อรถยนต์ รวมถึงอุปกรณ์ เครื่องตกแต่ง และส่วนควบที่ติดประจำอยู่กับตัวรถยนต์ แต่ไม่รวมความเสียหายที่เกิดจากไฟไหม้ โดยมีจํานวนเงินขั้นต่ำที่บริษัทต้องรับประกันภัยจํานวน 50,000 บาท (รถจักรยานยนต์ 5,000 บาท) ทั้งนี้การรับประกันภัยตัวรถยนต์ไม่ควรรับประกันภัยในจํานวนเงินจํากัดความรับผิดต่ำกว่า 80% ของราคารถยนต์ในวันเริ่มการประกันภัย เว้นแต้รถยนต์ที่ไม่มีการเสียภาษีขาเข้า
4️⃣ความคุ้มครองความรับผิดต่อความสูญหายและไฟไหม้ของตัวรถยนต์ (Fire and Theft: F&T) ให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของรถยนต์ รวมทั้งอุปกรณ์ เครื่องตกแต่ง และส่วนควบที่ติดประจำอยู่กับตัวรถยนต์ ที่ถูกไฟไหม้ หรือสูญหายไป
ไฟไหม้ในที่นี้ หมายถึง ความเสียหายต่อรถยนต์ที่เป็นผลมาจากไฟไหม้ ไม่ว่าจะเป็นการไหม้โดยตัวของมันเองหรือเป็นการไหม้ที่เป็นผลสืบเนื่องมาจากสาเหตุอื่น

การสูญหายในที่นี้ รวมถึงความเสียหายต่อรถยนต์ รวมทั้งอุปกรณ์เครื่องตกแต่ง หรือสิ่งที่ติดประจําอยู่กับตัวรถยนต์ ที่เป็นผลมาจากการลักทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ ยักยอกทรัพย์ หรือเป็นผลมาจากการพยายามกระทำดังกล่าวนั้น
5️⃣ความคุ้มครองเพิ่มเติม แบ่งออกเป็น 3 ความคุ้มครองหลักๆ ดังนี้
- การประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (Personal Accident)
บริษัทจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ต่อความสูญเสียอันเกิดจากความบาดเจ็บของผู้ขับขี่และ/หรือผู้โดยสาร ซึ่งอยู่ในรถหรือกำลังขับขี่ หรือกำลังขึ้น หรือกำลังลงจากรถยนต์ โดยอุบัติเหตุ

- การประกันภัยค่ารักษาพยาบาล (Medical Expense)
บริษัทจะชดใช้ค่ารักษาพยาบาล ค่าบริการทางการแพทย์ ค่าผ่าตัด และค่าบริการอื่นๆ ตามที่จ่ายจริง ซึ่งเกิดขึ้นภายใน 1 ปี นับตั้งแต่วันเกิดอุบัติเหตุ เพื่อผู้ขับขี่และ/หรือผู้โดยสารในรถคันเอาประกันภัย ซึ่งได้รับบาดเจ็บทางร่างกาย เนื่องจากอุบัติเหตุในขณะอยู่ในรถ หรือกำลังขึ้น หรือกำลังลงจากรถยนต์ แต่ทั้งนี้ไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัย

- การประกันตัวผู้ขับขี่ (Bail Bond)
บริษัทจะประกันตัวผู้เอาประกันภัย หรือบุคคลใดซึ่งขับรถยนต์ โดยได้รับความยินยอมจากผู้เอาประกันภัย ในกรณีรถยนต์ที่เอาประกันภัยไว้เกิดอุบัติเหตุ เป็นเหตุให้บุคคลดังกล่าวถูกควบคุมตัวในคดีอาญา
⭕ตรวจสอบงานบริการด้านประกันภัยได้ที่นี่จบครบทุกบริการแอดเลย​

✳️หรือแอดไลน​์ส่วนตัวปรึกษา​ผมได้โดยตรงที่ 👉 line.me/ti/p/~attaon

รับคำปรึกษาเพิ่มเติม คลิกที่นี่

🔴ประกันรถทำไมต้องมีค่า​เสีย​หายส่วนแรก❓

🔴ไขข้อข้องใจ ค่าเสียหายส่วนแรก Excess กับ Deductible ต่างกันอย่างไร หาคำตอบได้ที่บทความนี้เลยครับ!
 
ค่าเสียหายส่วนแรกแบบ Excess
ค่า Excess หมายถึง ค่าเสียหายส่วนแรกแบบ ภาคบังคับ ซึ่งจะมีระบุไว้ในเงื่อนไข โดยจะมีข้อกำหนดว่า เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ผู้ใช้รถจะต้องรับผิดชอบร่วมกับบริษัทประกันภัยเป็นค่าเสียหายส่วนแรก 1,000 บาท (แม้จะมีประกันชั้น 1 ก็ต้องจ่าย)
🔰โดยขึ้นอยู่กับกรณีดังนี้
✅อุบัติเหตุที่ไม่ได้เกิดจากการชน หรือรถพลิกคว่ำ
✅อุบัติเหตุที่ไม่สามารถระบุคู่กรณีได้

❓ทำไมถึงต้องจ่ายค่า Excess?
เชื่อว่าหลายๆ คนต้องสงสัยว่า ทั้งๆ ที่จ่ายเบี้ยประกันแล้ว ทำไมเราถึงยังต้องจ่ายค่า Excess อยู่ล่ะ
🔴 คำตอบนั้นมีอยู่ 2 ข้อด้วยกัน คือ
เพื่อป้องกันกรณีที่ผู้เอาประกันแจ้งเคลมทั้งที่ไม่ได้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นจริง อย่างเช่น อยากทำสีรถใหม่เลยใช้คัตเตอร์กรีดให้เป็นรอยแล้วแจ้งเคลมกับประกัน
เพื่อให้ผู้เอาประกันไม่เกิดความประมาทในการขับรถ ไม่ใช่ว่าจะขับแบบไหนก็ได้เพราะรู้อยู่แล้วว่าประกันจะจ่ายค่าเสียหายให้

❓ทำไมถึงต้องจ่ายค่า Excess?
 
กรณีไหนที่ต้องเสียหรือไม่เสียค่า Excess
เมื่อทราบกันแล้วว่าค่า Excess หมายถึงอะไร แต่ยังไม่เห็นภาพชัดว่ากรณีไหนบ้างที่ต้องเสียหรือไม่เสียค่าใช้จ่าย มาดูรายละเอียดของเรื่องนี้กันเลยดีกว่าครับ

🔴กรณีที่ต้องเสีย ได้แก่ กรณีที่รถของคุณเกิดความเสียหายแต่ ไม่สามารถระบุคู่กรณี​ หรือเหตุจากการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดการเคลมขึ้น​ โดยต้องระวังในการพิจารณา​ของเจ้าหน้าที่ที่เข้ามาตรวจสอบว่าจะตีความอย่างไร​ และมีเหตุน่าเชื่อถือไหม​ โดยทางที่ดีแนะนำไม่ว่าจะเกิดแผลเล็กแผลน้อยควรแจ้งเคลมสดทันทีเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา​ที่จะตามมาภายหลัง​ ❌สิ่งที่ไม่ควรทำคือการแจ้งเคลมทีเดียวรอบคัน​ 
อย่างไรก็ตาม ค่าเสียหายส่วนแรกสำหรับกรณีเหล่านี้จะเรียกเก็บครั้งละ 1,000 บาท ตามจำนวน เหตุการณ์ ไม่ใช่ต่อร่องรอยความเสียหาย ยกตัวอย่างเช่น รถของคุณถูกก้อนหินกระเด็นใส่มีรอยบุบ 3 รอย ก็จ่ายเพียง 1,000 บาท

แต่ถ้าหากรถของคุณมีรอยบุบจากหินกระเด็นใส่ และมีรอยขีดข่วนจากรั้วลวดหนามด้วย จะนับเป็นความเสียหายจาก 2 เหตุการณ์ แปลว่าคุณต้อง 1,000 บาท x 2 เหตุการณ์ เท่ากับ 2,000 บาทนั่นเอง

🔴กรณีที่ไม่ต้องเสีย ได้แก่ กรณีที่รถของคุณเกิดอุบัติเหตุ หรือความเสียหายที่สามารถ ระบุคู่กรณีได้ หรือมีภาพหลักฐานเหคุการณ์ที่ระบุได้ชัดเจน เช่น
รถชนเข้ากับพาหนะอื่นและสามารถแจ้งรายละเอียดของคู่กรณีได้
✅รถชนเข้ากับฟุตปาท กำแพง ป้ายจราจร ต้นไม้ หรือเสาไฟฟ้า
✅รถชนเข้ากับคน หรือสัตว์
✅รถพลิกคว่ำ
อย่างไรก็ตาม ประกันจะไม่คุ้มครองกรณีที่อุบัติเหตุเหล่านี้เกิดจาก เมาแล้วขับ ขับรถแข่งซิ่ง หรือใช้ในกรณีที่คุณทำผิดกฏหมายทุกกรณี เพราะฉะนั้น พยายามขับรถกันอย่างระมัดระวังและเคารพกฏหมายกันด้วย เพราะเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ประกันจะไม่จ่ายให้นะครับ
 
🔴ค่าเสียหายส่วนแรกแบบ Deductible
ค่า Deductible หมายถึง ค่าเสียหายส่วนแรกแบบ ภาคสมัครใจ ซึ่งจะค่อนข้างแตกต่างจากแบบ Excess เพราะเป็นค่าเสียหายส่วนแรกที่คุณยอมเสียให้กับบริษัทประกันทุกครั้งที่มีการเคลมในอุบัติเหตุ ที่คุณเป็นฝ่ายผิด 
 
โดยในขั้นตอนการทำประกัน จะมีเงื่อนไขให้คุณเลือกที่จะจ่ายค่า Deductible หรือไม่ ซึ่งถ้าคุณยอมจ่ายจะช่วยลดเบี้ยประกันตามจำนวนค่า Deductible ที่คุณระบุไว้

เช่น เบี้ยประกันรายปี 10,000 บาท แต่หากคุณระบุว่า ยินดีจ่ายค่า Deductible ทุกครั้งที่เกิดเหตุแล้วคุณเป็นฝ่ายผิด 2,000 บาท ซึ่งจะไปหักลบกับเบี้ยประกัน ทำให้คุณต้องจ่ายเพียง 8,000 บาทเท่านั้น

แต่ค่า Deductible นี้ไม่ได้มีทุกบริษัท หากคุณสนใจในเงื่อนไขนี้แนะนำให้สอบถามข้อมูลกันให้ดีๆ ก่อนนะครับ

🔰ค่าเสียหายส่วนแรก🔰
 
🔴จ่าย หรือ ไม่จ่าย แบบไหนคุ้มกว่ากัน?
เมื่อทราบกันแล้วว่าค่าเสียหายส่วนแรกแบบ Deductible คืออะไร ก็มาถึงคำถามที่ว่าเลือก จ่าย หรือ ไม่จ่าย แบบไหนจะคุ้มค่ากว่ากัน? ซึ่งคำตอบก็ขึ้นอยู่กับว่า คุณมีเชี่ยวชาญในการขับรถมากแค่ไหน

🔴หากคุณเป็น ผู้ชำนาญในการขับรถ และมั่นใจว่าการขับของคุณปลอดภัย ไม่ไปเฉี่ยวหรือชนเข้ากับอะไรง่ายๆ แน่นอน ก็ควรเลือกที่จะจ่ายค่า Deductible นี้ เพราะจะช่วยให้คุณประหยัดเบี้ยประกันในแต่ละปีไปได้มาก และแม้จะเกิดอุบัติเหตุ แต่ถ้าคุณไม่ได้เป็นฝ่ายผิดก็ไมต้องจ่ายอะไรเช่นเดียวกัน

แต่ถ้าหากคุณ ไม่ชำนาญในการขับรถ หรือยังเป็นมือใหม่หัดขับอยู่ และคิดว่ารถของคุณมีโอกาสที่จะชนนู่นชนนี่บ่อยครั้ง เงินติดล้อแนะนำว่าให้คุณเลือกไม่จ่ายค่า Deductible จะดีที่สุด มิฉะนั้นค่าเบี้ยประกันที่ลดลงมา อาจไม่คุ้มกับค่าเสียหายส่วนแรกที่คุณต้องจ่ายไป

🔴หากคุณกำลังมองหาที่ปรึกษา​ประกันภัยที่คอยให้คำแนะนำและหลีกเลี่ยง ค่าเสียหายส่วนแรกเหล่านี้ คุณสามารถปรึกษากับเรา ถูกดีประกันภัย-ประกันรถยนต์ พรบ. มากกว่า 35 บริษัท ประกันอัคคีภัย และอื่นๆ ได้เลยครับ เราเป็นโบรกเกอร์ที่มีประกันภัยรถยนต์ให้คุณเลือกหลากหลายรูปแบบ พร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญที่สามารถให้คำปรึกษาคุณได้อย่างตรงจุด ติดต่อขอรายละเอียดได้ลิงค์ของเรายินดีให้บริการทุกคนครับ​ 

✳️หรือแอดไลน​์ส่วนตัวปรึกษา​ผมได้โดยตรงที่ 👉 I​ am​AON​:ผมอ้นครับ

ขอใบเสนอราคากับ​ Roojai.com
ช่องทางรับคำปรึกษา คลิกที่นี่